เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 22 ก.ย. ร.ต.อ.รุ่ง ปัญญา รองสว.สอบสวน สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนองค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างในวัดบันได ม.1 ต.บางระกำ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา พบด้านข้างวัดติดแม่น้ำป่าสัก ห่างจากวัดประมาณ 500 เมตร พบพระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องขนาดความสูง 18 เมตร กว้าง 14 เมตร กำลังก่อสร้างมีนั่งร้านตั้งรอบองค์พระ ด้านหลังขององค์พระบริเวณช่วงเหนือหน้าตัก พบศพนายลาภวัต สัญญะเขตต์ อายุ 53 ปี ผู้รับเหมา และช่างลายปูนปั้น นั่งหงายหลังพิงนั่งร้าน สายเซฟตี้ติดอยู่กับนั่งร้าน ที่เอวมีสายเซฟตี้ติดอยู่ ที่หน้าท้องมีรอยถูกแดกเผาจนไหม้ ตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 24 ชม.

เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายศพจากด้านบนลงมาชันสูตรด้านล่างเป็นไปด้วยความยากลำบาก ตรวจสอบเพิงพักด้านล่างข้างองค์พระ พบข้าวของเครื่องใช้ และรถยนต์เก๋ง ฮฮนด้า ซีอาร์วี สีแดง ทะเบียน ภฉ-4099 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดอยู่สภาพปกติ

พระสมุห์วันชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบันได กล่าวว่า พระพุทธรูปองค์นี้เหมือนพระประธานของวัดหน้าพระเมรุชิการาม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสวยงาม ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี ซึ่งทางวัดได้ว่าจ้างผู้ตายในการก่อสร้างเป็นช่างที่ฝีมือดี ปกติจะมีช่างมาทำงานประมาณ 4-5 คน พักอาศัยอยู่บริเวณนี้ ในช่วงนี้เป็นช่วงของการติดลายปูนปั้นขององค์พระ จึงผู้ตายทำงานเพียงคนเดียว จะเดินมาดูงานพูดคุยกันทุกวัน ทราบจากน.ส.สาลิตา สัญญะเขตต์ ลูกสาวผู้ตาย ได้พยายามโทรพูดคุยกับผู้ตายครั้งสุดท้ายเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันที่ 20 ก.ย. จากนั้นติดต่ออีกไม่ได้จึงรีบเดินทางมาพบว่าเสียชีวิตอยู่บนนั่งร้านแล้ว ทั้งนี้ทราบว่าผู้ตายมีโรคประตัวอยู่หลายโรค

น.ส.สาลิตา สัญญะเขตต์ ลูกสาวผู้ตาย เล่าต่ออีกว่า บิดาของตนเดินทางมาร่วมก่อสร้างพระพุทธรูปของวัดบันได เป็นเวลา 2 ปีเเล้ว ปกติจะติดต่อกับตนอยู่เป็นประจำ เเต่เมื่อเวลา 15.00น. ของวันที่ 20 ก.ย. ตนเองไม่สามารถติดต่อกับบิดาได้ ซึ่งปกติถ้าวันไหนติตต่อกันไม่ได้ช่วงเช้าของอีกวันบิดาจะติดต่อกลับมาเอง เเต่มาวันนี้บิดาก็ยังไม่โทรกลับมา ตนเองจึงตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพมหานคร เพื่อมาตรวจสอบที่วัด เมื่อมาถึงก็เข้าไปดูที่ห้องนอนแต่ไม่พบ พบเพียงแต่รถยนต์ของบิดาจอดอยู่ข้างองค์พระประธาน จึงเงยขึ้นสำรวจที่องค์พระก็พบร่างบิดานอนอยู่บนนั่งร้าน จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ จนมาทราบว่าเสียชีวิตไปเเล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะขึ้นไปทำงานแล้วด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ผู้ตายเกิดเป็นลมช็อคหมดสติเสียชีวิตหรือไม่ก็อาจมีโรคประจำ ซึ่งจะส่งศพไปชันสูตร ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน