เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีบ้านเรือนประชาชนถูกพายุฝนกระหน่ำลมพัดบ้านพังเสียหายอย่างหนัก จึงรุดไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 115/2 ม.9 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ฝาบ้านตีแปะด้วยแผ่นสังกะสี เนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา ตั้งอยู่กลางทุ่งนาโล่งกว้าง โดยมีนายวีระชัย จันทร์เทียน อายุ 46 ปี และนางรัชนี จันทร์เทียน อายุ 35 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของบ้าน กำลังช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านพักของตนเอง หลังจากเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา มีพายุฝนตกหนักในพื้นที่ และมีลมพัดอย่างรุนแรง จนทำให้แรงลมหอบหลังคาที่มุงด้วยสังกะสีปลิวไปตกกลางทุ่งนาห่างจากตัวบ้านประมาณ 100 เมตร ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเสียหายหลายรายการ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน เปียกน้ำฝนทั้งหมด และกระแสไฟฟ้าดับต้องจุดเทียนนอนในเวลากลางคืน

นอกจากนี้ ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในหลังบ้านดังกล่าว 8 ชีวิต ที่มีทั้งเด็ก คนชรา คนพิการ ต้องอยู่ด้วยความยากลำบากเป็นอย่างมาก โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.39 กองทัพภาคที่ 3 และ ผู้นำท้องถิ่น นำโดยนางสุระดี เพชรจันทร์ สท.เขต 2 เทศบาลตำบลหัวรอ ได้เข้ามาสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว โดยอยู่ระหว่างนำช่างผู้ชำนาญงานมาตรวจสอบเพื่อประเมินมูลค่าซ่อมแซม ให้สามารถพักอาศัยอยู่ได้อย่างมั่นคงถาวรกว่าเดิม

นายวีระชัย กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นช่วงเวลาเย็นของวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะนั้นในพื้นที่มีพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีลมพายุพัดแรง ซึ่งบ้านของตนตั้งอยู่กลางทุ่งนาโล่ง ๆ เพียงหลังเดียว อาจจะเป็นช่องลมที่มีลมพายุหมุนพัดมาอย่างรวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว คนในบ้านต่างตกใจหวาดกลัว กระทั่งลมพายุได้พัดหอบเอาหลังคาสังกะสีลอยหายไปหมดทั้งแถบ เพราะอยู่อาศัยมา 4 ปี เพิ่งเคยเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญแบบนี้เป็นครั้งแรก หลังเกิดเหตุตนได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านให้รับทราบเรื่อง เพื่อประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน