เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 22 ก.ย. ที่สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา รอง ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.จารุกิตติ์พัฒน์ สุขยิ่ง สว.สส. ร่วมกันจับกุม น.ส.มิโชวิน อายุ 35 ปี สัญชาติพม่า อาชีพแม่บ้าน พร้อมของกลางนาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชร 1 เรือน และแหวนเพชร 4 กะรัต 1 วง มูลค่ารวมกันประมาณ 3,000,000 บาท หลังก่อเหตุลักทรัพย์นายจ้างซึ่งเป็นนักธุรกิจส่งออกเครื่องเพชรไปต่างประเทศ

พ.ต.อ.ญาณพงศ์ เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา นางนวรัตน์ อานุภาพมาก อายุ 71 ปี เจ้าของบ้านและเป็นนายจ้างของน.ส.มิโชวิน ได้เข้าแจ้งความว่านาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชร 1 เรือน และแหวนเพชร 4 กะรัต ที่สวมใส่เป็นประจำได้สูญหายไป โดยขณะเกิดเหตุมีน.ส.มิโชวิน ซึ่งเป็นแม่บ้านอยู่ในบ้านกับผู้เสียหายเพียง 2 คน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวน.ส.มิโชวิน มาสอบสวนโดยครั้งแรกเจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็ง และยอมกล่าวคำสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปบนหิ้งพระภายในห้องสืบสวนเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์

“กระทั่งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ น.ส.มิโชวิน ได้พยายามเก็บของใช้และขอลาออกจากงาน ผู้เสียหายจึงแจ้งตำรวจฝ่ายสืบสวนให้นำกำลังไปที่บ้านพักภายในหมู่บ้านโกลล์เลเจนด์ ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. เพื่อขอค้นตัวและตรวจดูทรัพย์สินของน.ส.มิโชวิน จนพบของกลางซุกซ่อนอยู่ในกระปุกยาแล้วซุกไว้ในกระเป๋าสะพายจึงควบคุมตัวมาดำเนินคดี เมื่อมาถึงน.ส.มิโชวิน ได้กราบขอขมาพระพุทธรูปบนหิ้งในห้องฝ่ายสืบสวนเพื่อขอถอนคำสาบานด้วย เนื่องจากเจ้าตัวกลัวว่าจะพบเจอความหายนะจากการพูดจาโป้ปดกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์” พ.ต.อ.ญาณพงศ์ ระบุ

ด้านน.ส.มิโชวิน รับสารภาพว่าเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา นางนวรัตน์ เข้าไปอาบน้ำและวางทรัพย์สินทิ้งเอาไว้ ตนจึงหยิบเอาไปซ่อนในโถชักโครกห้องน้ำอีกห้อง ก่อนที่นายจ้างจะแจ้งความกับตำรวจและถูกคุมตัวมาสอบสวนที่จนตนต้องยอมสาบานต่อหน้าพระเพื่อเอาตัวรอดไปก่อน กระทั่งในวันนี้กำลังจะเก็บของลาออกจากงานกลับไปบ้านเกิดที่ประเทศพม่าก็มาถูกค้นตัวทำให้ตำรวจพบของกลาง

ขณะที่นางนวรัตน์ เปิดเผยว่า ว่าจ้างน.ส.มิโชวิน มาทำงานเป็นแม่บ้านได้ 4 ปีแล้วโดยมีเอกสารจ้างงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้เงินเดือนถึงเดือนละ 14,000 บาท ไม่น้อยไปกว่าคนไทย ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะทำกันได้ถึงขนาดนี้ และเมื่อพอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวทำให้ต้องหันมาตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดในบ้าน

“จนพบว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีอีกหลายรายการที่สูญหายไปประกอบด้วย แหวนบุษราคัมล้อมเพชร 1 วง แหวนเพชร 1 วง ต่างหูมุก 1 คู่ และ จี้เพชร 1 อัน มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท แต่เนื่องจากน.ส.มิโชวินไม่ยอมรับและตรวจค้นไม่พบของกลางแล้ว ก็ต้องทำใจและต้องปล่อยเลยตามเลย แม้ว่าทางตำรวจจะตรวจพบว่าในบัญชีธนาคารของน.ส.มิโชวิน เคยมีเงินหมุนเวียนกว่า 6 แสนบาทที่ทยอยโอนกลับไปให้ญาติที่ประเทศพม่าก็ตาม”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน