วันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่ จ.สระแก้ว พบหญิงชราเข็นรถเก็บขยะท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก สอบถามทราบว่าคุณยายคนดังกล่าว ชื่อนางวิรามร ก้อยกระโทก อายุ 77 ปี พักอยู่หลังโรงเลื่อย ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว คุณยายวิรามร เล่าว่า เดิมตนเองมีที่นาอยู่ที่บ้านไทยพัฒนา หลังกองกำกับ ตชด.12 แต่ต่อมามีการสู้รบระหว่างกัมพูชากับเวียดนาม ทางราชการก็ได้อพยพชาวบ้านป่าไร่ และท่าข้าม มาอยู่ที่นี่กันจำนวนมาก แต่หลังสงครามสงบ ชาวบ้านก็อพยพกลับบ้านเรือนของตน ทางกรมประชาสงเคราะห์ จึงได้คืนที่ดินบริเวณนี้ให้กับกรมป่าไม้
แต่คืนที่ดินของชาวบ้านที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่ดั้งเดิมให้ป่าไม้ไปด้วย หลังป่าไม้รับมอบที่ดินมาจากกรมประชาสงเคราะห์ ก็ได้ขับไล่พวกตนออก คุณยายบอกว่า ได้พยายามบอกกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่า ที่ดินที่คุณยายอยู่ไม่ใช่ที่ดินที่กรมประชาสงเคราะห์ ขอใช้พื้นที่ให้กับผู้อพยพ แต่ทางกรมป่าไม้ไม่ยอมฟัง เข้ามารื้นและเผาบ้านของตนเองจนหมด ซึ่งคุณยายกล่าวพร้อมแสดงภาพถ่ายที่ถูกป่าไม้เผาไล่ที่มาให้ดู
คุณยายบอกว่า ก่อนตายอยากได้กลับไปทำนาในที่ดินของคุณยาย เพราะอยู่มาตั้งแต่ปู่ ย่า ตายาย ตั้งแต่ พ.ศ. 2497 ที่ต้องออกมาเก็บขยะขายก็เพราะว่าตนเองอยู่เพียงลำพัง เงินเบี้ยชราไม่พอกิน เก็บขยะบางวันก็ยังได้ 40 ถึง 50 บาทต่อวัน 2 ถึง 3 วันก็นำออกไปขายครั้งหนึ่ง คุณยายได้พาเข้าไปดูบ้านของคุณยาย ซึ่งมีทางเดินเพียง 1 ศอกเท่านั้น เป็นซองเข้าไปประมาณ 20 กว่าเมตร ครับนี่คือชีวิตของคนจนที่ถูกทางราชการขับไล่ยึดที่ดินไป
