เมื่อวันที่ 26 ก.ย. นายปานศิริ ปาดกุล หรือ ตูมตาม อายุ 24 ปี เล่าว่า หลังจบปริญญาตรี คณะรัฐประศาสนศาสตร์ ทำงานที่แรกในแผนกบัญชีบริษัทแห่งหนึ่ง จากนั้นย้ายไปอยู่โรงงานผลิตอะไหล่โทรศัพท์มือถือที่ จ.ปทุมธานี ทำงานประจำได้ราว 5 เดือน รับเงินเดือน 2 หมื่นบาท อยู่ราว 5 เดือน พอรู้ว่าพ่อในวัย 60 ปี ประสบอุบัติเหตุตกต้นไผ่ความสูงกว่า 2 เมตร เลยลาออก แล้วกลับบ้านมาดูแลพ่อ และกลับมาเป็นเสาหลักหารายได้เลี้ยงปากท้อง 3 คน ครั้งหนึ่งเคยลำบากแม้กระทั่งไม่มีเงินซื้อข้าวสารกิโลกรัมละ 33 บาท ต้องไปกู้เงินทั้งในระบบและนอกระบบ เนื่องจากพ่อเดินไม่ได้ ต้องกินอาหารผ่านสายยางอยู่ 5 เดือน แม่ก็ป่วย จึงคิดเลี้ยงปูนาขึ้นมา เนื่องจากส่วนตัวชอบกินปูนามาก เคยไปหาตามท้องนา 5-6 ชั่วโมง ไม่สามารถหาได้ เลยเกิดความคิด จะเลี้ยงขาย จึงใช้เงินเก็บที่มีอยู่ 2 หมื่นบาท ลงทุนเลี้ยงปูนาในบ่อปูน บนที่ดินที่มีอยู่ 1 ไร่ 44 ตารางวา สั่งปูนา คละไซ้ส์มาจากหลายจังหวัด ครั้งแรกราว 4 ตัน

นายปานศิริ กล่าวต่อว่า แม้การเลี้ยงปูนาครั้งแรกจะไม่สำเร็จตายหมดเลย 4 ตัน เนื่องจากว่าเลี้ยงในบ่อปูนซึ่งมีความเย็น อีกทั้งใส่น้ำประปาลงไปอีกซึ่งมีคลอรีน ปูนาปรับสภาพไม่ทันจนตายเกลี้ยง แต่ตนไม่ยอมแพ้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม สั่งปูนามาเลี้ยงอีกครั้ง แต่พัฒนาด้วยการเลือกซื้อพ่อแม่พันธุ์ปูนามาเลี้ยงแทนการซื้อตัวเล็ก เพราะปูนาตัวเล็กจะบอบบางตายง่ายกว่าพ่อแม่พันธุ์ ปัจจุบันเลี้ยงปู 2 สายพันธุ์ คือ ปูนาธรรมดา ตัวจะมีขนาดเล็ก และ ปูนาพันธุ์กำแพง ตัวใหญ่ รสชาติมัน ครั้งนี้สำเร็จและก็เลี้ยงมาขายทั้งปูสด ปูดอง และนำปูมาแปรรูปเป็นน้ำพริกเผา กะปิปู ส่งขายร้านอาหาร ยังมีขนมจีนน้ำยาปูขายอีกด้วย บางเดือนสร้างรายได้หลักล้านบาท โดยขายปูทั้งตัวเล็กที่ใช้ตำส้มตำกิโลกรัมละ 80-100 บาท ส่วนปูตัวใหญ่ที่กำลังลอกคราบ เรียกว่าปูนิ่มกิโลกรัมละ 1,200 บาท และก้ามปูกิโลกรัมละ 1,000 บาท ส่งตามร้านอาหาร ภัตตาคาร รวมถึงขายพ่อแม่พันธุ์ด้วยคู่ละ 100 บาท อีกทั้งยังมีพ่อค้าจากประเทศจีนสั่งกระดองปู เศษแข้งขาปูนำไปตากแดดให้แห้งแล้วเอามาบดาเพื่อเอาไปทำยา โดยขายกิโลละ 5,000 บาท
ทั้งนี้ผู้ใดสนใจสามารถติดต่อได้ที่ ฟาร์มปูนา นายตูมตาม อยู่บ้านเลขที่ 71/2 หมู่ 3 ต.โพทะเล อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี เบอร์ติดต่อ โทร.085-420-3813, 062-336-5408

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน