สลด! ไฟไหม้บ้านวอด แม่เฒ่าป่วยติดเตียงหนีไม่ได้ ถูกคลอกดับคากองเพลิง

ไฟไหม้บ้านวอด แม่เฒ่าวัย 77 ปี ป่วยติดเตียงหนีไม่ได้ ถูกคลอกดับคากองเพลิง จนท.ระดมรถน้ำ 4 คัน ฉีดสกัดเพลิงกว่า 2 ชม.

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2563 ร.ต.อ.ทนงศักดิ์ หล้าคำมี รอง.สว.(สอบสวน) สภ.หนองม่วงไข่ ช่วยราชการปฏิบัติหน้าที่ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ รับแจ้งจากจุดตรวจบ้านป่าเลาว่า มีไฟไหม้บ้านที่บ้านป่าเลา หมู่ที่ 3 ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ จึงรายงานพ.ต.ท.สงกรานต์ ใจมาก สวป.สภ.สะเอียบ รักษาการสารวัตรใหญ่ สภ.สะเอียบ ก่อนนำกำลังรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบบ้านครึ่งปูนครึ่งไหม้ที่กำลังถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตในกองเพลิงอีก 1 คน ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถหนีได้ ขณะเพลิงกำลังลุกไหม้ โดยไม่มีใครสามารถฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปได้ เพราะไฟกำลังโหมอย่างหนัก ประกอบกับมีลมกระโชกแรง กระทั่งมีรถดับเพลิงมาถึงและฉีดน้ำสกัดไว้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยใช้รถฉีดน้ำของ อบต.สะเอียบ 1 คัน รถฉีดน้ำจาก อบต.เตาปูน 2 คัน และรถฉีดน้ำจากศูนย์ควบคุมไฟป่าแม่ยม 1 คัน

ต่อมาลูกคนรองและลูกคนสุดท้องได้นำร่างของแม่ออกจากกองเพลิง ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นางคำน้อย ทะแก้ว อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ที่ 3 ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ เบื้องต้นทราบว่า ปกตินางสมศรี บุกหล้า อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 3 ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ลูกสาวคนโตที่มาพักอาศัยอยู่เพื่อดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงด้วยประจำ พร้อมด้วยหลานอีก 5 คนที่ได้เฝ้าดูแม่ที่ป่วยติดเตียงมานาน ขณะเกิดเหตุ หลังทำอาหารให้แม่ทานแล้ว จึงออกไปทำงานที่โรงงานทำตะเกียบอยู่ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร

นางสมศรี บอกอีกว่า ทุกวันหลังจากทำอาหารให้แม่เสร็จ แล้วป้อนข้าวแม่ ก็จะออกไปทำงานทุกวัน ส่วนมื้อกลางวันก็เอาข้าวมาให้ทานและจะกลับมาอีกครั้งในช่วงเย็น ปกติจะเปิดพัดลมไว้ให้แม่ทุกวัน แต่วันนี้หลังออกจากบ้านไปประมาณ 20 นาที เพื่อนบ้านก็โทรมาบอกว่าไฟไหม้บ้าน จึงรีบมากับสามีก็พบว่าไฟได้ลุกไหม้จนไม่สามารถเข้าไปช่วยแม่ได้

ด้านพนักงานสอบสวนเมื่อทราบว่า มีผู้เสียชีวิตในกองเพลิง จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลสองให้มาร่วมตรวจสอบชันสูตรพลิกศพร่วมกัน โดยนพ.วันชัย วันทนียวงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสอง ทำหน้าที่แพทย์เวรประจำวันโรงพยาบาลสอง ร่วมชันสูตรพลิกศพในสภาพที่ถูกไฟไหม้เกรียม จนจำสภาพเดิมไม่ได้ พร้อมบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

เมื่อสอบถามญาติว่าติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตหรือไม่ นายสุทน ทะแก้ว อายุ 52 ปี ลูกชายคนรอง ไม่ติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิต เพราะไม่อยู่ในข่ายในการประทุษร้ายเพื่อหวังผลประโยชน์ในด้านอื่นๆจึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับทายาทเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนสาเหตุเพลิงลุกไหม้ครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรอผลการตรวจโดยละเอียดจากพิสูจน์หลักฐานจังหวัดแพร่

ขณะที่นายกิติพัฒน์ กะวัง นายอำเภอสอง จ.แพร่ พร้อมด้วยปลัดอำเภอ คณะกิ่งกาชาดอำเภอสอง นายแต๋ง อินทานายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะเอียบ กำนันตำบลสะเอียบ ลงพื้นที่เยี่ยม และให้กำลังใจพร้อมมอบเงินช่วยเหลือ สิ่งของอุปโภคบริโภค ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้