เปิดกล้องหน้ารถคันเกิดเหตุ นาทีสลด เก๋งสาวอบต. ตัดหน้าจยย.หนุ่ม17ดับ ตาผู้เสียชีวิต เล่าสลด เศร้า ปีหน้าไม่มีหลานช่วยทำนา
จากกรณีวัยรุ่นชาย 17 ปี ชาวบ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง ขับรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ หลังจากไปขนข้าวในนา และจะไปตามเพื่อนมาช่วยสีข้าว ขณะมาถึงจุดกลับรถสามแยกปากทางเข้า อบต.บ้านผึ้ง มีพนักงานสาว อบต.บ้านผึ้ง ขับรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน อาเมร่า มาจากในตัวเมือง ถึงปากทางสามแยก ได้เลี้ยวขวาเข้าไปที่ อบต.บ้านผึ้ง ชนรถของนายชาย เป็นเหตุให้เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดช่วงเช้า วันที่ 27 พ.ย. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ความคืบหน้า วันที่ 27 พ.ย.2563 ร.ต.อ.(หญิง)จุฬารัตน์ อาจภิรมณ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม เจ้าของคดี หลังตรวจยึดกล้องหน้ารถนิสสันของ น.ส.ลัดดา คู่กรณีไปตรวจสอบ พบว่ารถของ น.ส.ลัดดา ขับเปิดเพลงมาตามทาง ลักษณะขับเลนขวาชิดเกาะกลางถนน แล้วหักพวงมาลัยเลี้ยวขวาเพื่อจะขับไปอีกเลน
ภาพจากกล้องหน้ารถ บันทึกภาพขณะ น.ส.ลัดดา ขับมาถึงสามแยกก่อนชะลอรถเล็กน้อย และหักพวงมาลัยรถ เป็นจังหวะที่นายชาย ขับรถ จยย.พุ่งตรงจะไปรับเพื่อนมาช่วยสีข้าว ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุราว 100 เมตร รถได้พุ่งชนเข้าที่สีข้างประตูรถด้านหน้าอย่างจัง ส่วนรถเก๋งของ น.ส.ลัดดา ได้เสียหลักพุ่งชนป้ายเครื่องหมายจราจรและป้ายผู้สมัครหาเสียง ส.อบจ. จนกระจกรถแตกร้าว
เบื้องต้นมีพยานอ้างว่าพบเห็นนายชาย ขับรถ จยย.มาด้วยความเร็วสูง ลักษณะเอนตัวหมอบเอาหน้าแนบกับหน้าปัดรถนั้น ภาพจากกล้องยังบันทึกได้ว่า น.ส.ลัดดา ได้เลี้ยวตัดหน้านายชาย อย่างกระชั้นชิด เป็นเหตุให้นายชายเบรก ไม่ทันก่อนพุ่งชน จนร่างลอยละลิ่วตกกระแทกพื้น เป็นเหตุให้นายชาย เสียชีวิตดังกล่าว
วันเดียวกันในช่วงค่ำ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านนายชาย ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ พบนายอิทธิพล แสงงาม วัย 60 ปี และนางนารี ภูสมดา อายุ 58 ปี ตาและยายของนายชาย ผู้เสียชีวิต นั่งอยู่หน้าโรงศพหลานชาย ด้วยความเศร้าสลด
นายอิทธิพล กล่าวว่า ได้เลี้ยงดูนายชายมาแต่แบเบาะ หลังจากบิดานายชายเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนแม่ไปทำงานอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี หลานชายคนนี้เป็นเด็กไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุรี่ หลังเรียนจบชั้น ม.4 ทางบ้านมีฐานะยากจน จึงให้ออกจากโรงเรียนทำงานรับจ้างหาเงิน เพื่อนำมาให้กับตนและผู้เป็นยาย หลานชายจะรับจ้างทำงานทุกอย่าง ช่วงทำนาก็จะไถ่หว่านเอง ก่อนที่หลานชายจะเสียชีวิต ได้พูดว่า
“พรุ่งนี้จะเอาข้าวที่สีแล้วขึ้นยุ้งฉางให้ จะได้มีเวลาไปเที่ยวกับเพื่อน” กระทั่งรุ่งเช้าก็ไปรับจ้างสีข้าวในนาจนเสร็จ ระหว่างไปตามเพื่อนมาช่วยสีข้าว ก่อนจะถูกรถเก๋งพุ่งชนเสียชีวิตดังกล่าว ปีหน้าคงไม่มีใครมาทำนาให้อีกแล้ว ส่วน น.ส.ลัดดา คู่กรณีได้เดินทางมาไหว้ศพหลานชาย
โดยมอบเงินช่วยเหลืองานศพเบื้องต้น 10,000 บาท ส่วนด้านคดียังไม่มีการเจรจา ขอจัดงานศพหลานชายให้เสร็จเสียก่อน ขณะเดียวกันได้มีเพื่อนของนายชาย ที่ผู้ตายจะขับรถไปรับมาช่วยสีข้าว ได้มาจุดธูปเพื่อบอกกล่าวผู้ตายต่อหน้าหีบศพว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ข้าวขนเข้ายุ้งฉางเสร็จดหมดแล้ว” ส่วนพิธีนายชาย ญาติจะนำร่างไปฌาปนกิจในวันที่ 29 พ.ย.ที่จะถึงนี้ เนื่องจากต้องรอให้แม่ผู้ตายเดินทางมาจาก จ.ปราจีนบุรี เสียก่อนว่าจะฌาปนกิจในวันดังกล่าวหรือไม่
