เมื่อวันที่ 3 ต.ค. นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ชัยภูมิ ที่เพิ่งเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ที่จ.ชัยภูมิ เพียง 2 วัน หลังจากทราบกรณีมีผู้ปกครองไปแจ้งความเอาผิดครูโหดโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในจ.ชัยภูมิ เนื่องจากตบลูกชายอายุเพียง 14 ปี จนฟันหักและเตะซ้ำอีก และไม่ยอมรับผิดชอบนั้น จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางต้นสังกัด ผอ.สพม.เขต 30 จ.ชัยภูมิ ที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของโรงเรียนมีชื่อ และครูดังกล่าว พร้อมหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หน่วยงานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมกับนักสังคมสงเคราะห์ และหน่วยแพทย์ให้เร่งลงพื้นที่เยี่ยวยาสภาพจิตใจของเด็กและครอบครัวรายนี้ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดี ให้มีการเร่งติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดทั้งทางวินัยราชการ และคดีอาญาโดยเร็ว และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเด็กที่เริ่มมีสภาพจิตใจหวาดผวาจนไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนอีกด้วย

ด้าน นายปราโมทย์ ภูมิพันธ์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเบื้องต้นจากโรงเรียนที่ครูรายนี้อยู่แล้ว ซึ่งมีมูลข้อเท็จจริงและมีเด็กถูกกระทำจริง โดยตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งให้ย้ายครูคนดังกล่าวที่ตบเด็กนักเรียนจนฟันหักออกจากพื้นที่โรงเรียน มาประจำที่สำนักงาน สพม.เขต 30 ไว้ก่อนแล้ว เพื่อรอการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยละเอียดอีกครั้ง จากนี้ไปไม่เกินภายใน 15 วัน เพื่อดำเนินการเอาผิดทางวินัยร้ายแรงเพิ่มเติม

นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่า รวมทั้งครูอีกราย หรือมีใครอีกบ้างที่เข้าไปเกี่ยวข้องในการข่มขู่เด็ก และครอบครัวของเด็กว่าจะมีผลกระทบเรื่องการเรียนในอนาคตของเด็ก จนทำให้เด็กไม่กล้ามาโรงเรียนเพิ่มเติมอีกด้วย ด้านครูที่ก่อเหตุก็ชี้แจงเพียงวาจาว่า เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นเหตุมาอีกเรื่อง ส่วนด้านผู้ปกครองและเด็กก็ว่าอีกเรื่องตามหลักฐานที่มีการลงบันทึกยอมรับผิดว่าทำเด็กจริง เพราะเกิดโทสะมีการลงลายมือชื่อครูก่อเหตุยอมรับก็ถือว่ามีความผิดจริง เบื้องต้นจึงต้องมีการดำเนินการตามระเบียบราชการ จากนี้ไปไม่อยากให้มีครูในลักษณะนี้อีกด้วย

นายปราโมทย์ กล่าด้วยว่า เรื่องนี้ทางต้นสังกัดไม่เคยนิ่งนอนใจ เมื่อทราบเรื่องจึงดำเนินการสั่งย้ายครูรายนี้ออกจากพื้นที่โรงเรียนมาประจำที่สำนักงานเขตไว้ก่อนแล้ว รวมทั้งเรื่องการเยี่ยวยาสภาพจิตใจเด็กทั้งเรื่องการรักษาฟันหัก ที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายก็จะได้ลงไปช่วยเหลือเยี่ยวยาสภาพจิตใจของเด็กให้กลับคืนมาโดยเร็วด้วย ส่วนคดีอาญาก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการควบคู่กันไปอีกทาง ขอให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจได้ว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายในเรื่องนี้

ขณะที่หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หน่วยงานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมกับนักสังคมสงเคราะห์และหน่วยแพทย์ จ.ชัยภูมิ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ประสานไปยังครอบครัวพ่อแม่และเด็กวัย 14 ปีรายนี้ เพื่อเร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงร่วมกับร.ต.ท.สุเมธ เสนากร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าของคดี เพื่อสรุปสำนวนส่งดำเนินคดีกับครูรายนี้ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน