กรณีคนร้ายก่อเหตุยิงนายสุวัตร์ ทบหลง อายุ 36 ปี คนขับรถพ่วงบรรทุกข้าวสาร 20 ตัน จนเสียชีวิต บริเวณถนนสายปะคำ–โนนดินแดง กม.ที่ 106-107 ต.หูทำนบ อ.ปะคำ เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับรถกระบะมาประกบแล้วใช้ปืนลูกซองยิงใส่ พร้อมบังคับให้จอดรถก่อนใช้ค้อนทุบกระจกด้านข้างประตู ผู้ตายจึงกระโดดลงจากรถวิ่งหนี แต่คนร้ายยังวิ่งไล่ตามไปยิงอีก 2 นัด รวม 3 นัด แต่ถูกหน้าอก 1 นัด จากนั้นคนร้ายถอดเอารถพ่วงตัวแม่ขับหลบหนีไป ทิ้งลูกพ่วงไว้บนถนน จนมีรถสิบล้อที่ขับตามหลังมามองไม่เห็นพุ่งชนเต็มแรงจนตกถนน
ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายกำพล เขจรรักษ์ อายุ 28 ปี ชาว ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ คนขับตัวพ่วงแม่หลบหนี พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และนายสัญญา สุริยะบุญ อายุ 43 ปี พี่เขย ที่นายกำพลนำอาวุธปืนไปซ่อนไว้ที่บ้านหลังก่อเหตุ ส่วนนายบุญครอง จงจำ หรือแจ๊ค อายุ 22 ปี มือปืนไหวตัวหลบหนีไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตามไล่ล่าตัวมาดำเนินคดี โดยนายกำพล สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถกลับจากเที่ยวในตัวเมืองบุรีรัมย์กับนายบุญครอง แต่พอมาถึงหน้าปั๊มน้ำมัน ถูกรถพ่วงคันดังกล่าวขับตัดหน้าทำให้โมโหจึงขับไล่ตามแล้วใช้ปืนกระหน่ำยิงคนขับ จากนั้นถอดลูกพ่วงออกแล้วขับตัวแม่พ่วงหลบหนี แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเพราะพฤติการณ์ขัดกับคำให้การ ซึ่งจะเร่งติดตามตัวนายบุญครอง มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ต.ค. พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลฉาย รอง ผบช.ภ. 3 กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ล่า นายบุญครอง คนลงมือยิงนายสุวัตร์ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่ถูกจับได้ ยังให้การปฏิเสธ อ้างว่าผู้ก่อเหตุมีเพียงนายแจ๊ค ที่กำลังหลบหนีเพียงคนเดียว ส่วนพวกตนสองคนเป็นเพียงคนนั่งรถไปด้วย ไม่รู้ว่านายแจ๊คจะก่อเหตุ แต่ตำรวจยังมั่นใจว่าได้ร่วมกันวางแผนการปล้น เพราะให้การขัดกับสถานการณ์จริง วิเคราะห์แล้วน่าจะความตั้งใจประสงค์ต่อทรัพย์ อย่างไรก็ตามสำหรับนายแจ๊คที่หลบหนี ตำรวจได้ลงพื้นที่ติดตามทั้งในพื้นที่จ.บุรีรัมย์ และเส้นทางที่คาดว่านายแจ๊คจะหลบหนี เชื่อว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีในเร็วๆนี้
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ยอมรับว่าคนขับรถพ่วงห่วงทรัพย์สินของนายจ้าง หลังจากรู้สึกไม่ปลอดภัย ได้ล็อคพ่วงตัวลูกไม่ให้เคลื่อนไหวได้ เพื่อประวิงเวลาให้เผื่อมีคนมาช่วยเหลือ ทำให้กลุ่มคนร้ายต้องปลดออก ได้เพียงตัวแม่ไป
พล.ต.ต.บุญจันทร์ ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมามักจะมีการก่อเหตุร้ายจี้ปล้นบ่อยขึ้น จึงอยากจะแจ้งเตือนคนขับรถและนักเดินทาง ไม่ควรประมาท การแจ้งขอความช่วยเหลือที่เร็วที่สุดในตอนนี้คือหมายเลข 191 ซึ่งมีการประสานงานกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากผู้ใช้รถหรือประชาชนทั่วไปที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถแจ้งได้ทันที อย่างไรก็ตามขอฝากประชาสัมพันธ์ให้กับนักเดินทาง หากพบสิ่งผิดปกติอย่านิ่งเฉย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อการช่วยเหลือจะทันเวลา