กรณี “ชมรมรักวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่” โดยนายเฉลิม สารแปง ประธานชมรมฯ และคระกรรมการฯประชุมและเล็งเห็นความสำคัญในการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควันในช่วงเทศกาลประเพณียี่เป็งเมืองเชียงใหม่ เพื่อสนับสนุนขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่ จึงเห็นควรให้ จ.เชียงใหม่ อนุญาตและส่งเสริมให้มีการละเล่น และปล่อยโคมไฟ โคมลอย เป็นปกติ ดังที่เคยกระทำผ่านมาในโบราณกาล ในคืนวันเพ็ญเดือนยี่ และวันแรม 1 ค่ำ จึงประชุมแสดงความคิดเห็นและขออนุญาตยืนหนังสือต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้มีการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน โดยเน้นในเรื่องของความปลอดภัย และอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับการบิน และให้งดการบินในห้วงเวลา 19.00 น. ในคืนวันที่ 2-3 พ.ย.60 ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเฉลิม สารแปง ประธานชมรมรักวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ พร้อม นายพิพานพง วงค์วัจนสุนทร ผู้ทรงคุณวุฒิสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ พ.จ.ท.สาคร ปีกอง ผู้จัดการงานควบคุมจราจรทางอากาศยาน(เขตประชิดสนามบินภูมิภาค) ศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และคณะ เข้ายื่นหนังสื่อต่อนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ทางหน่วยงานราชการจังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนการจัดงานประเพณียี่เป็งเมืองเชียงใหม่ อนุญาตให้ปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน และให้งดการบินในช่วงเวลาดังกล่าว และมาตรฐานในการผลิตและจำหน่ายโคมลอย โคมไฟ หรือว่าวไฟที่เหมาะสม

นายปวิณ กล่าวว่า จ.เชียงใหม่ เป็นเมืองที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ในช่วงเทศกาลเดือนยี่เป็งของทุกปี ตั้งแต่วัน 2-3 พ.ย.ของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนมากในช่วงเทศกาลงานประเพณียี่เป็ง ดังนั้นตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 27/2559 เรื่องมาตรการป้องกันเหตุและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2559 ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดทำประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นใน มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัย และการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดแบะปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม)หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2559 ซึ่งผ่านความเห็นชอบร่วมกันของคณะกรรมการจังหวัดเชียงใหม่ และสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.2559

ห้ามมิให้ผู้ใด จุดและปล่อย หรือกระทำการใด หรือโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายอำเภอแห่งท้องที่ และได้ปฎิบัติต ามหลักเกณฑ์ในประกาศของจังหวัดเชียงใหม่ ,ผู้ใดจุดและปล่อย หรือกระทำอย่างใด เพื่อให้โคมไฟ โคมลอย โคมควัน(ว่าวฮม)หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ ได้กำหนดให้กระทำได้ในช่วงระยะเวลา 3 วัน คือตั้งแต่วันที่ 2-3 พ.ย. ให้กระทำได้ในวันลอยกระทง (กระทงเล็ก) ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทยของทุกปี โดยให้จุดและปล่อยตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึงเวลา 01.00 น.ของวันถัดไป

ยกเว้น เฉพาะการปล่อยโคมควัน(ว่าวฮม)ให้กระทำการจุดและปล่อยตั้งแต่เวลา 10.00 น.ถึงเวลา 12.00 น. (ปี พ.ศ.2560 ตรงกับวันที่ 3 พ.ย.2560 ) และให้กระทำในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ของทุกปี (กระทงใหญ่)โดยให้จุดและปล่อยตั้งแต่เวลา 19.00 น.ถึงเวลา 01.00 น.ของวันถัดไป (ปี พ.ศ.2560 ตรงกับวันที่ 4 พ.ย.2560) และให้กระทำได้ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า – ต้อนรับปีใหม่ ในช่วงคืนวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี โดยให้จุดและปล่อยตั้งแต่เวลา 19.00 น.ถึง 01.00 น.ของวันถัดไป

“ขณะนี้มีหน่วยงานเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ขอนุญาติปล่อยโคมไฟ โคมลอย 2,000 ดวง ที่เชิงสะพานนวรัฐ ซึ่งตนเองได้กำชับตักเตือนให้ระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัย การเกิดไฟไหม้ และต้องมีผู้รับผิดชอบ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ได้ขออนุญาตปล่อยโคมลอย โคมไฟ มาแล้วเช่นการ โดยหน่วยงาน หรือผู้ที่จะทำการปล่อยโคมไฟ โคมลอย โคมควัน นั้น ต้องยึดถือปฎิบัติตาม คำสั่งของ คสช.และประกาศของจังหวัดเชียงใหม่ และปล่อยตามระหว่างวัน เวลา ที่กำหนด โดยทางจังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้ห้าม หรือขัดขวาง เกี่ยวกับการอนุรักษ์ ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวเชียงใหม่ แม้แต่ตนเองยังสนับสนุนให้ชาวเชียงใหม่อนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม ดูแลโบราณสถาน โบราณวัตถุ และพูดภาษาคำเมือง และเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ส่วนเทศกาลประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเมืองเชียงใหม่ นั้นก็ให้การสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรม การปล่อยโคมลอย โคมไฟต้องเป็นไปตามประกาศของจังหวัดเชียงใหม่ ในระหว่างวัน เวลาที่กำหนด สถานที่จุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน ต้องมีการยื่นขอรับใบอนุญาตล่วงหน้าก่อนวันจุดและปล่อยไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้อำเภอสามารถตรวจสอบความเหมาะสมของสถานที่และแจ้งประสานท่าอากาศยานเชียงใหม่ หรือศูนย์ควบคุมกากรบินเชียงใหม่ทราบล่วงหน้า 7 วัน เพื่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชุมชนและประชาชน”ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวตอนท้าย

ด้านนายเฉลิม กล่าวว่า จากการที่ตนเองพร้อมคณะเข้าพบและยื่นหนังสือต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขออนุญาตปล่อย โคมลอย โคมไฟ โคมควัน(ว่าวฮ่ม) ในช่วงงานเทศกาลประเพณียี่เป็ง ระหว่างวันที่ 2-3 พ.ย.2560 ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รับหนังสือขออนุญาต ดังกล่าวแล้ว พร้อมให้การสนับสนุนการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวล้านนา จ.เชียงใหม่ สนับสนุนการจัดงานประเพณียี่เป็ง หรืองานลอยกระทง และได้ตักเตือนหน่วยงานทั้งของภาครัฐ เอกชน ที่มีการจุดและปล่อยโคมไฟ โคมลอย โคมควัน(ว่าวฮม)ให้ระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัย การเกิดไฟไหม้ บ้านเรือน อาคาร สถานที่ต่างๆ ต้องมีการวางแผนป้องกันเหตุทั้งในด้านชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมในช่วงงานประเพณียี่เป็ง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ ของชาวเชียงใหม่ อีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน