วันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเกาะติดสถานการณ์มวลน้ำที่ไหลล้นเขื่อนลำปาทาว จากอิทธิพลพายุฝนตกหนักในหลายพื้นที่มาต่อเนื่องมาตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนเกิดน้ำป่าหลากจากเทือกเขาภูแลนคา ทะลักเข้าล้นสันเขื่อนลำปะทาว หลากเข้าท่วมพื้นที่ใน 3 ตำบลของ ต.นาฝาย,ต.นาเสียวและ ต.บ้านเล่า ผ่านเข้าท่วมถึงตัวเมืองชัยภูมิมาต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แล้ว ซึ่งระดับน้ำท่วมเริ่มมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นไม่หยุดและขยายวงเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเพิ่มอีกมากขึ้นมาขยายวงต่อเนื่องในรอยต่อกว่า 8 ชุมชน
ในชุมชนโนนสาทร,โนนสมอ,หนองบ่อ,กุดแคน.หินตั้งตั้ง,คลองเรียง,เมืองเก่า และโนนไฮ ชุมชนอยู่ติดลำน้ำลำปะทาวที่ล้นลงมาจากเขื่อนลำปะทาวไหลผ่านเป็นระลอกที่ 2 หลังเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำยังเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเฉลี่ยสูงกว่า 30 ซม.ถึงกว่า 1 เมตรแล้ว หนักสุดในชุมชนโนนสมอ และกุดแคนที่และ ไม่สามารถใช้รถทุกชนิดผ่านเข้าออกชุมชนได้แล้ว ทางจังหวัดต้องนำเรือท้องแบนเพื่อไว้ใช้เป็นพาหนะเข้าออกชุมชนแทนไปก่อน ชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มเกิดความเครียดเพราะเข้าออกชุมชนไม่ได้ และต้องอยู่อย่างลำบากจะต้องออกไปทำมาหากินจนทำให้เริ่มขาดแคลนรายได้ที่จะซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคอาหารและน้ำดื่มตามมาอีกจำนวนมากกว่า 800 ครอบครัว
ขณะที่จนท.ได้รับแจ้งว่าได้พบบ้านประชาชนที่อยู่ห่างออกไปกลางทุ่งนาซึ่งลับตาคนระยะทางกว่า 200 เมตร มีครอบครัวที่มีสามีภรรยาและลูกๆอีกรวม 4 ชีวิต ของนายอำพล ประดิษฐ์วรคุณ อายุ 52 ปี และภรรยานางจิตรลดา วัย 46 ปี และลูกสองคนวัย16ปีและดญ.9ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.15 ต.ในเมือง เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ กำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนจากปัญหาถูกน้ำท่วมบ้านได้รับความเสียหายมาถึง 2 รอบ ไม่สามารถเดินทางออกไปประกอบอาชีพทำอาหารไปขายในตลาดตัวเมืองได้ตลอดช่วงที่ผ่านมาหลายสัปดาห์ จนขาดรายได้ไม่มีงานทำมานาน ต้องพาครอบครัวพ่อแม่ลูกอีก 2 คน รวม 4 ชีวิต เข้ามาหลบน้ำอยู่ในบ้าน และไม่มีเงินที่จะนำไปหาซื้ออาหารมาเลี้ยงครอบครัวได้ต้องทนอดมื้อกินมื้อกันมานานกว่า 3 วันแล้ว
ล่าสุด นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ชย. และนางวันดี วุ่นซิ้ว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชัยภูมิ มอบหมายให้คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับนายมงคล อดทน รอง ผวจ.ชัยภูมิ และหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือโดยเบื้องต้นได้มออบเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและมอบถุงยังชีพจากสภากาชาดไทย และทางจังหวัดจะได้หาแนวทางให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้เพิ่มเติมต่อไปอีกด้วย
