วันที่ 11 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สตึก จ.สุรินทร์ ได้รับการประสานจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบัว จ.สุรินทร์ ให้ช่วยสกัดจับกุมรถกระบะอีซูซุ แบบแค๊บ สีขาว หมายเลขทะเบียน บท 2050 อุทัยธานี ขับแหกด่านตรวจหลบหนีมุ่งหน้าเข้าไปยัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สตึก จึงนำกำลังตั้งด่านสกัดจับกุม แต่กลับพบว่า รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับแหกด่านไปอีกถึง 2 ด่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สตึก จึงได้ขับรถไล่ตามไปอย่างกระชั้นชิด พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ให้ช่วยสังเกตุการณ์ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่รถคนร้ายจะขับหลบหนีไป

จากนั้น พ.ต.อ.กรธัช อู๊ดเจริญ ผกก.สภ.บ้านด่าน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านสกัดเร่งด่วน พร้อมวางแผนอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เนื่องจากยังไม่ทราบว่าภายในรถกระบะ มีสิ่งผิดหมาย หรือมีอาวุธร้ายแรงหรือไม่ จนกระทั่งพบรถเป้าหมายวิ่งมาด้วยความเร็วสูง จากนั้นเมื่อเห็นด่านตรวจ คนร้ายจึงเลี้ยวรถกระบะเพื่อพยายามจะหลบหนีเข้าซอยอย่างกระทันหัน ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางบริเวณหน้า ธกส. สาขาบ้านด่าน จนนิ่งสนิทไม่สามารถขับหลบหนีต่อไปได้

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าประชิดรถกระบะคันดังกล่าว พบนายภานุวัฒน์ ศรีพอ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 11 ต.กู่จาน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.โยสธร เป็นผู้ขับ โดยไม่ได้รับบาดเจ็บและไม่มีอาการมึนเมาสุราแต่อย่างใด จากการตรวจค้นในรถก็ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สภ.บ้านด่าน โดยนายภานุวัฒน์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเพิ่งสึกจากพระ และจะเดินทางไปกรุงเทพ โดยไม่ได้ตั้งใจแหกด่าน แต่เห็นด่านแล้วตกใจ จึงขับรถหลบทำให้เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีการแหกด่านตำรวจถึง 2 จังหวัด หลังจากนี้จะได้ตรวจค้นรถและตรวจประวัติอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะเส้นทางที่นายภานุวัฒน์ ขับหลบหนี ว่าได้มีสิ่งผิดกฎหมายถูกนำทิ้งข้างทางระหว่างการขับหลบหนีหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน