เมื่อเวลา 09.00 น วันที่ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ดอยอินทนนท์ ว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา บริเวณป้ายบอกทางเข้าโครงการหลวงอินทนนท์ และโครงการหลวงขุนวาง ก่อนถึงที่ทําการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เกิดอุบัติเหตุรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน 4กข-6608 กรุงเทพฯ ไถลลงข้างทางซึ่งเป็นช่วงก่อนขึ้นเนินสูง เป็นรถของนักท่องเที่ยว โดยช่วงดังกล่าวมีฝนตกลงมาถนนลื่นทำให้เกิดสไลด์ลงไป แต่โชคดีที่ไม่ใช่เหวลึก ชาวบ้านได้ช่วยกันชักลากรถขึ้นมาอยางปลอดภัย ซึ่งรถดังกล่าวเป็นโฟร์วิล

แต่สภาพถนนที่ลื่นมากและมีฝนตกหนักบนดอยอินทนนท์ ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้ หากไม่ขับขี่รถตามคำแนะนำ โดยเฉพาะช่วงขาลงจากดอยอินทนนท์จะลาดชันและยาว ซึ่งระยะนี้มีฝนตกต้องเพิ่มความระมัดระวังซึ่งครั้งนี้โชคดีที่ไถลลงไปโดยไม่มีผู้บาดเจ็บดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ มีผู้เดินทางทั้งในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าช่วงนี้จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม ขณะเดียวกันจากการที่ฝนตกนั้น ส่งผลให้เส้นทางที่จะเดินทางขึ้นไปมักเกิดอุบัติเหตุตามจุดต่าง ๆ บ่อยครั้ง เนื่องจากถนนลื่น ทัศนวิสัยในการมองเห็นค่อนข้างลำบาก ทำให้รถเสียหลักตกข้างทางประสบอุบัติเหตุหลายราย

ด้านอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้มีมาตรการป้องกันและลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ไว้เบื้องต้น โดยการประสานกับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ในการช่วยกันอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางขึ้นมาท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมทั้งติดป้ายแจ้งเตือนอุบัติเหตุ และเส้นทางที่เป็นอันตรายไว้เป็นระยะ ตั้งแต่ กม.ที่ 8-31

นายรุ่ง หิรัญวงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักเดินทาง และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอุทยานฯในช่วงฤดูฝนนี้ เบื้องต้นสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่สอดส่องดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ทั้งทางน้ำและทางบก เช่น ตามน้ำตกต่าง ๆ ที่คอยเตือนให้นักท่องเที่ยวทราบและไม่ให้ลงเล่นน้ำ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้

นายรุ่ง กล่าวต่อว่า เพราะขณะนี้ฝนตกมากทำให้น้ำตกมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นและไหลเชี่ยว ส่วนทางบกก็คอยสอดส่องและช่วยเหลือหากเกิดอุบัติเหตุตามเส้นทาง อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากการขับขี่รถโดยประมาท เนื่องจากบางจุดเป็นทางลาดชันผู้เดินทางอาจไม่ชำนาญทางหรือขับขี่มาด้วยความเร็ว เมื่อถึงทางโค้งอาจเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ นั้นจะเป็น กม.ที่ 26 และ กม.ที่ 28 จึงอยากขอให้ผู้เดินทางขับขี่รถด้วยความระมัดระวังและไม่ควรใช้ความเร็วมากเกินไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน