วันที่ 18 ต.ค. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ จ.ชุมพรได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่โคนขาขวาจนทะลุได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณห้องแถวริมถนนสายหลังวัดบ้านนา หมู่ 1 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร รุดไปตรวจสอบ พร้อมทั้งจัดหน่วยรถนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์อย่างเร่งด่วน
โดยที่ห้องเช่าดังกล่าวลักษณะเป็นห้องแถว 2 คูหา หันหน้าเข้าหากัน จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าห้องเลขที่ 62/20 พบเพียงรอยเลือดแห้งกรังอยู่บนพื้น ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่าเป็นผู้หญิงหน่วยกู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.สุนิสา นาคสังข์ อายุ 41 ปี
จากการสอบถามอาสาสมัครกู้ภัยสายชน รหัสบ้านนา 01 ซึ่งพักอาศัยอยู่ใกล้กับห้องแถวที่เกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ได้มีชาวบ้านมาบอกว่าให้ไปรับคนถูกยิงส่งโรงพยาบาลด้วย พวกตนจึงรุดไปตรวจสอบพบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าที่โคนขาขวา 2 แผล ทะลุขาซ้าย 1 แผล จึงสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งยังมีสติอยู่บอกว่าถูกลูกหลง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พบนายวิสูติ วิชัยดิษฐ์ อายุ 39 ปี สามีของ น.ส.สุนิสา โดยอุ้มลูกสาววัย 1 ขวบไว้ตลอดเวลา และลูกสาววัย 12 ปี ยืนอยู่ใกล้ๆ นายวิสูติ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่หลังบ้าน ส่วนภรรยาได้อุ้มลูกสาวคนเล็กวัย 1 ขวบ เดินเล่นอยู่หน้าบ้าน โดยมีลูกสาวคนโตนั่งอยู่บนโต๊ะหินอ่อน สักพักได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน ต่อมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จึงวิ่งออกมาดูพบว่าภรรยาตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงโทรศัพท์เรียกกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาล
ขณะที่ พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายพิบูลย์ หรือจัน สุวรรณ์วงค์ อายุประมาณ 30-35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/1 หมู่ 1 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาหานายโต้ง เป็นคนรู้จักกันมาเช่าห้องพักอยู่ใกล้กับห้องของ น.ส.สุนิสา จากนั้นเกิดการโต้เถียงกันขึ้น นายพิบูลย์ ได้ชักปืนออกมาและเกิดการยื้อแย่งกันขึ้นกับนายโต้ง จนปืนดังขึ้น 2 นัด ไปถูก น.ส.สุนิสา ที่กำลังอุ้มลูกน้อยวัย 1 ขวบอยู่ในอ้อมอก นอกจากนี้นายพิบูลย์ ยังถูกกระสุนปืนเข้าที่มือซ้ายบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่แยกย้ายหลบหนีไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น.วันเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวนายพิบูลย์ ได้ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ขณะแอบเข้ามารักษาบาดแผลจากถูกกระสุนปืน พร้อมของกลาง เป็นปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ขนาด .32 มม. พร้อมกระสุน 3 นัด บรรจุไว้ในแม็กกาซีน จึงนำตัวมาสอบปากคำกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งเบื้องต้นนายพิบูลย์ ยังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าสาเหตุที่ น.ส.สุนิสา ถูกยิงนั้นเกิดจากปืนลั่น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ
สำหรับนายพิบูลย์ เคยต้องโทษคดีชิงทรัพย์ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองชุมพรมาก่อน และเพิ่งจะพ้นโทษมาไม่นาน ก็กลับมาก่อคดีอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำตัวผู้ต้องหารายนี้ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
