วันที่ 19 ต.ค. พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี รรท.ผบช.ทท., พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา รรท.ผบก.ทท.2, พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน นำหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.661/2560 ลงวันที่ 17 ต.ค.60 ในข้อหาแจ้งข้อความหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการขอมีบัตร, ทำใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทำการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อ หรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทะเบียนราษฎร์อื่นโดยมิชอบฯ เข้าจับกุม นายหน่อ อายุ 31 ปี สัญชาติเมียนมา หลังสวมบัตรประชาชนของ พระอัศรินทร์ ศิลาดำ อายุ 31 ปี พระลูกวัดธรรมมงคล กทม. ขณะบวชเป็นพระเดินอยู่โรงเรียนบ้านห้วยขม ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พระอัศรินทร์ ได้เข้าร้องทุกข์ว่าถูกชายชาวต่างชาติแอบอ้างชื่อสวมบัตรใช้สิทธิ์เป็นคนไทย ซึ่งตำรวจสืบทราบว่าชายคนดังกล่าวมาบวชเป็นพระอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ กระทั่งแกะรอยจนไปพบอยู่ที่ จ.เชียงราย ก่อนเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นนายหน่อ ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า ได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย จากนั้นได้จ่ายเงินจำนวนหนึ่งเพื่อมีบัตรประชาชนและได้สิทธิ์เป็นคนไทย ซึ่งใช้ชื่อของพระอัศรินทร์ มาตั้งแต่นั้น กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งระหว่างแถลงข่าวมีพระอัศรินทร์ เดินทางมาด้วย โดยนายหน่อ ได้ยกมือไหว้ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตามที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ผู้กระทำความผิดในรูปแบบต่างๆ มาโดยตลอด ทั้งในกรณีที่ผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาเป็นคนต่างด้าว ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการท่องเที่ยว หรือเพื่อการอื่นๆ อันมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยพื้นที่ทางเหนือของประเทศไทย มีรูปแบบการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีแบบชาวล้านนามาเป็นเวลานาน จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ จึงเป็นช่องทางให้กลุ่มขบวนการบุคคลต่างด้าวเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ในรูปแบบการสวมบัตรประชาชนบุคคลอื่นซึ่งเสียชีวิต หรือบุคคลที่ไม่มีความเคลื่อนไหวทางทะเบียนราษฎร์เป็นระยะเวลานาน อันก่อให้เกิดภัยต่อสังคม และความมั่นคงของประเทศอย่างยิ่ง