วันที่ 19 ต.ค. ที่ กก.ดส. พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รรท.ผกก.ดส. พร้อมด้วย พ.ต.ท.คฑายุทธ โรจน์วงศ์สุริยะ รองผกก.ดส. พ.ต.ต.เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ สว.กก.ดส. ร.ต.อ.ศุภกิจ สมรักษ์ รองสว.กก.ดส. ด.ต.วีระศักดิ์ วิชัยดิษฐ จ.ส.ต.ธนากร เมืองกระจ่าง จ.ส.ต.นพดล เหมรา จ.ส.ต.ศักดิ์ชัย ดิษฐ์ประเสริฐ์ ผบ.หมู่ กก.ดส. และชุดปราบปรามยาเสพติดกก.ดส. ร่วมกันแถลงจับกุม นายสมชาย หรือบาส แต่งแดน อายุ 30 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ 3.18 กรัม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้บริเวณอาคารบีบีเพลส ซอยลาดพร้าว 41 แยก 6-3 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เมื่อเวลา 20.35 น. วันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา

พ.ต.ต.เนติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่านายสมชาย มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับบุคคลทั่วไป ติดกันผ่านโทรศัพท์และไล รวมถึงแอพพลิเคชั่นเครือข่ายสังคมบนมือถือที่ให้บริการสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้สายลับสั่งซื้อยาไอซ์ จำนวน 2 กรัม มาส่งที่หน้าอารยันเพลส ซ.อินทามระ 34 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปดักซุ่มอยู่บริเวณข้างเคียง

ต่อมามีโทรศัพท์เข้ามาเป็นพนักงานบริษัทลาล่ามูฟ ซึ่งเป็นบริษัทส่งของออนไลน์ นำลำโพงบลูทูธมาส่ง จากนั้นนายสมชาย ได้โทรเข้าหาสายลับว่าไม่สามารถมาส่งของด้วยตนเอง จึงให้พนักงานบริษัทลาล่ามูฟมาส่งของแทน เป็นถุงกระดาษสีน้ำตาลปิดผนึกมียาไอซ์หนักรวม 2.36 กรัม ซุกซ่อนไว้มาในลำโพงบลูทูธดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพนักงานคนดังกล่าวมาสอบปากคำ

จากการตรวจสอบทราบว่าพนักงานคนดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเพียงแค่พนักงานส่งของออนไลน์ ที่ได้รับแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่นของบริษัท ทราบเพียงว่าผู้ว่าจ้างเป็นชายไทยผิวขาว ชื่อตามรายการสั่งสินค้าคือ “Suthichai” แจ้งให้มารับสินค้าเป็นลำโพงบลูทูธ จากหน้าอาคารบีบีเพลส ซอยลาดพร้าว 41 ไปส่งที่ให้ผู้รับที่อาคารอารยันเพลส ซ.อินทามระ 34 แล้วนำเงินจำนวน 2,700 บาท กลับมาส่งที่เดิม

จากนั้นตำรวจชุดจับกุมจึงปลอมตัวเป็นพนักงานบริษัทลาล่ามูฟ แจ้งไปที่นายสมชาย ว่าได้รับของเรียบร้อยแล้วจะนำเงิน 2,700 บาทกลับไปส่ง ก่อนเดินทางไปยังอาคารบีเพลส ซอยลาดพร้าว 41 เมื่อพบนายสมชาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม ซึ่งนายสมชาย ได้ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ตนอยู่ในกลุ่มชายรักชายทำงานบริษัทและตกงานจึงได้มาขายยาไอซ์ โดยมีเพื่อนอีกคนหนึ่งแนะนำมาอยู่แถวย่านซอยรัชดาภิเษก โดยตนเป็นผู้ว่าจ้างพนักงานบริษัทลาล่ามูฟ ให้ทำการส่งของจริง จากการตวรจค้นภายในห้องพักเลขที่ 307 ชั้น 3 พบยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์การเสพ รวมทั้งกล่องลำโพงบลูทูธ 7-8 ชิ้น เบื้องต้นแจ้งข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้นได้ฝากเตือนให้เจ้าของบริษัทแอพพลิเคชั่นหรือบริษัทขนส่งทำการตรวจสอบสินค้า เพราะเชื่อว่าน่าจะมีผู้ค้ายาเสพติดใช้บริการลักษณะดังกล่าว ไม่เช่นนั้นพนักงานบริษัทส่งของอาจจะถูกจับกุมดำเนินคดีไปด้วยเช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน