เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 20 ต.ค. ร.ต.อ.เอกศักดิ์ ขวัญหวาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต รับแจ้งจากห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลถลาง ว่ามีคนถูกยิงบาดเจ็บเข้ามารักษาตัว เหตุเกิดบริเวณหน้าสวนยางพารา ทางไปน้ำตกโตนไทร ม.1 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จึงนำกำลังสายตรวจและชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและสอบปากคำผู้บาดเจ็บ

ที่ห้องฉุกเฉินพบนายดนุเดช มะลิวัลย์ อายุ 40 ปี ที่อยู่บ้าน ม.3 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง แพทย์และพยาบาลกำลังทำบาดแผลที่ถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่บริเวณแขนซ้าย 1 นัด กระสุนฝังในก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อผ่าตัดนำหัวกระสุนปืนออกส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ตตรวจสอบที่มาของหัวกระสุนปืนและขนาด

เบื้องต้นนายอนุเดชยังคงรู้สึกตัวดี สามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ขณะเดียวกันพบนายศิริพันธ์ ชนะภัย อายุ 30 ปี และนายมนัส สุพงศ์ อายุ 38 ปี เพื่อนของนายดนุเดชที่อยู่ในที่เกิดเหตุยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายดนุเดช นายศิริพันธ์ และนายมนัส เป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งที่มีการปลูกยางพารา ได้ไปเฝ้าสวนยางพาราบริเวณที่เกิดเหตุ เนื่องจากที่ผ่านมา มักมีคนร้ายเข้าไปขโมยขี้ยางพาราอยู่เป็นประจำ ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ทั้งหมดจึงมาเฝ้าตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะเกิดเหตุทั้ง 3 คน นั่งจับกลุ่มพูดคุยกันอยู่ที่ริมถนนหน้าสวนยางพาราของบริษัท จากนั้น มีรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ไม่ทราบทะเบียน

สอบสวนทราบอีกว่า ภายในรถมีชายฉกรรจ์ 3 คนขับเข้ามาจอดบริเวณที่กลุ่มผู้บาดเจ็บนั่งอยู่ จากนั้น คนนั่งข้างคนขับได้ลดกระจกลงแล้วใช้ปืนไม่ทราบขนาดสาดกระสุนเข้ามายังกลุ่ม 5 นัด ทำให้กระสุนพุ่งเข้าที่บริเวณแขนซ้ายของนายดนุเดชได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายศิริพันธ์และนายมนัสไม่ถูกคมกระสุน ก่อนจะขับรถหลบหนีไป

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกระสุนปืนที่ยังไม่ได้ถูกยิงขนาด .38 จำนวน 1 นัดตกอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุเบื้องต้นนายศิริพันธ์และนายมนัสให้การว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้ใดมาก่อน จึงไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นไว้กว้างๆ เช่น ขัดแย้งเรื่องส่วนตัว หรือกลุ่มคนร้ายต้องการที่จะเข้ามาขโมยขี้ยางพาราที่สวนยางพาราดังกล่าว แต่กลับมาพบกับกลุ่มผู้บาดเจ็บ จึงเกิดความโกธรแค้น

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน