วันที่ 20 ต.ค. นางสุดา ทาปัญญา อายุ 45 ปี บ้านโค้งงาม ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนได้เช่าพื้นที่เอกชนเปิดร้านอาหารในเมื่อเดือน มี.ค. 2555 ซึ่งช่วงแรกตนได้จ่ายค่าไฟฟ้าแต่ละเดือนต่ำสุดจะอยู่ที่ 2 พันบาท และหากเป็นช่วงฤดูร้อนจะใช้ไฟฟ้ามาก็จะตกอยู่ที่ 7 พันบาท หลังจากนั้น เดือนส.ค. 2559 ตนได้ย้ายร้านออกจากพื้นที่เช่ามาเปิดร้านที่บ้าน อยู่ดีดีก็มีหนังสือจากหน่วยงานเรียกเก็บค่าไฟฟ้า ย้อนหลังเพิ่ม เป็นระยะเวลา 4 ปี รวมเป็น 338,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่ามีการจดเลขมิเตอร์คลาดเคลื่อน จากยอดรวมที่เรียกเก็บตามปกติยอดรวมที่ 85,774 บาท

จากการตรวจสอบหนังสือและตารางเรียกเก็บที่หน่วยงานดังกล่าวส่งมาให้พบความผิดปกติของการจดมิเตอร์ตั้งแต่เดือนต.ค. 2555 พบว่าหน่วยเลขมิเตอร์ไฟฟ้าอยู่ที่ 9490 พอเดือนต่อมา เลขมิเตอร์กลับมาอยู่ที่เลข 1106 หลังจากนั้นมาทำให้การคำนวณค่าไฟฟ้าคาดเคลื่อนจนถึงเดือน สิงหาคม 2559 ทั้งหมดรวมเป็นระยะเวลา 47 เดือนหรือเกือบ 4 ปี เมื่อมีการเรียกเก็บค่าไฟเพิ่ม พบว่ามีการเติมเลขศูนย์ หลังเลขมิเตอร์ ทำให้การการคำนวณค่าไฟฟ้าแพงเกินความเป็นจริง

บางเดือนค่าฟ้าแพงขึ้นกว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง หากนับจากจำนวนเงิน 338,000 บาทเมื่อนำมาหารด้วยจำนวน 47 เดือนค่าไฟฟ้าที่หน่วยงานดังกล่าวเรียกเก็บย้อนหลังคิดเป็นเดือนล่ะ 7 พันกว่าบาทเลยทีเดียว ตนจึงอยากขอความช่วยเหลือจากผู้ที่มีความรู้ ช่วยเหลือในการตรวจสอบการคำนวณค่าไฟฟ้าจากหน่วยงานดังกล่าวเนื่องจากมีการส่งหนังสือแจ้งและตารางการปรับปรุงค่ากระแสไฟฟ้ามาให้ 3 ครั้ง แต่ล่ะครั้งตัวเลขไม่เหมือนกันเลย

นอกจากนี้ตนลองนำเครื่องคิดเลขมาลองคำนวณตัวเลขในเอกสารพบว่ามีการคาดเคลื่อนหลายจุด ละอยากจะทราบว่าหน่วยงานดังกล่าวใช้หลักอะไรในการคำนวณตัวเลขมิเตอร์ย้อนหลังแต่ละเดือน เนื่องจากว่ามีความผิดปกติของเลขมิเตอร์ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 และความผิดพลาดดังกล่าวเกิดจากเจ้าหน้าที่ ของหน่วยงานดังกล่าวเป็นระยะเวลานานเกือบ 4 ปี ทำไมไม่มีการตรวจสอบตั้งแต่พบความผิดปกติในช่วงแรก แต่หน่วยงานดังกล่าวกลับผลักภาระให้กับชาวบ้านเป็นผู้รับผิดชอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน