วันที่ 29 ต.ค. ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันสี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง รับแจ้งมีเหตุผู้สูญหายภายในน้ำ เหตุเกิดบริเวณบ้านเลขที่ 38/2 หมู่ 3 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง โดยพบแต่เรือของผู้สูญหายแต่ไม่พบตัว จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. ที่ประจำอยู่ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง
ที่เกิดเหตุพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นกลุ่มบ้านที่ถูกน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมขังสูงประมาณ 2.50 เมตร โดยผู้สูญหายคือนายสำอาง วังเวงจิตร์ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/2 หมู่ 3 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ซึ่งสูญหายไปเกือบครึ่งวัน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ลงงมหาร่างนายสำอางค์ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงพบร่างนายสำอาง ซึ่งจมอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
จากการสอบถามนางอุษา รอดเชียง อายุ 49 ปี น้องภรรรยาของนายสำอาง กล่าวว่า หลังจากน้ำท่วม นายสำอาง ก็ชอบพายเรือไปไหนมาไหนคนเดียวเป็นประจำ แต่ว่ายน้ำไม่เป็น โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าเห็นนายสำอาง พายเรือคู่ใจออกมาจากบ้านเพื่อมารดน้ำต้นไม้ที่ยกหนีน้ำเอาไว้บนถนน ก่อนที่จะพายเรือเข้าไป แล้วต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงๆ ก็มีคนเห็นว่านายสำอาง พายเรือลำดังกล่าวออกไปข้างบ้าน เพื่อจะไปตัดต้นกล้วยที่ขวางทางน้ำอยู่ ก่อนที่จะเงียบหายไป
จนช่วงบ่ายตนเห็นเรือของนายสำอาง ลอยมาที่หน้าบ้านตน แต่ไม่พบนายสำอาง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร เข้าใจว่านายสำอาง อาจจะเข้าบ้านพักผ่อนไปแล้ว และอาจจะผูกเรือไม่ดีทำให้ลอยมาที่บ้านตน กระทั่งตอนเย็นได้มีเพื่อนร่วมงานของนายสำอาง มาหาที่บ้าน ตนก็พยายามเรียกหาแต่ก็ไม่พบ จึงได้ตะโกนเรียกภรรยาของนายสำอาง แต่ภรรยาของนายสำอางก็แจ้งว่ายังไม่เห็นตั้งแต่สายๆ แล้ว ตนเอะใจไปตามหาตามที่ต่างๆ ที่นายสำอางจะไป พอไม่เจอจึงโทรหาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยตามหา กระทั่งมาพบเป็นศพจมอยู่ใต้น้ำดังกล่าว
เบื้องต้นคาดว่าระหว่างที่นายสำอาง พายเรือออกไปตัดต้นกล้วย อาจเกิดเป็นลมหน้ามืด เนื่องจากวันนี้มีอากาศร้อนอบอ้าว และมีแดดแรง หรือไม่ก็โรคประจำตัวกำเริบจึงทำให้ล้มหรือร่วงออกจากเรือ แล้วจมลงไปในน้ำ ประกอบกับนายสำอาง ว่ายน้ำไม่เป็นและตอนที่ล้มลงไปอาจไม่มีใครเห็น จึงทำให้จมน้ำดังกล่าว ซึ่งอย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ลงความเห็นให้นำศพส่งชันสูตรยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง
