ผัวเมีย บ้านออมเบส จ่อคุก หลังดอดมอบตัววานนี้ ตร.แจ้งดำเนินคดี 2 ข้อ เตรียมฝากขัง พร้อมค้านประกัน ทนายเผยมียอดค้างอยู่ 20 ล้าน

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

จากกรณี น.ส.กรองทอง หรือเบส อายุ 35 ปี ซึ่งตั้งกลุ่มออมเงินออนไลน์กลุ่ม “บ้านออมเบส” ซึ่งมีลักษณะเดียวกับแชร์ออนไลน์ โดยมีชาวบ้านเข้าร่วมกลุ่มหลายร้อยคนและสูญเงินนับร้อยล้านบาท และมีการออกมารวมตัวเรียกร้องเงินคืนเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่บ้านของ น.ส.กรองทอง

แต่นส.กรองทองกับแฟนหนุ่มได้หลบหนีไป โดยส่งทนายความมาเจรจากับผู้เสียหายและยอมจ่ายเงินคืนให้ผู้เสียหายบางส่วน แต่ไม่เต็มจำนวน ก่อนที่เมื่อวานนี้ น.ส.กรองทอง หรือเบสและนายธนสิทธิ์ หรือบอม ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองสงขลา ตามที่เสนอข่าวไปปแล้วนั้น

อ่าน สาวเท้าแชร์ “บ้านออมเบส” โกงเงิน 100 ล้าน ควงสามี ดอดมอบตัว ตร.ค้านประกัน

ล่าสุดวันที่ 31 มี.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กรองทอง หรือเบสและนายธนสิทธิ์ หรือบอมยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่ห้องขัง สภ.เมืองสงขลา หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำทั้งสองคนเสร็จเมื่อประมาณ 19.00 น.วานนี้ ขณะที่บรรยากาศที่ สภ.เมืองสงขลา ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีผู้เสียหายมารวมตัวที่โรงพักตามที่มีความกังวลแต่อย่างใด

เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาคือ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งทั้งสองคนยอมรับสารภาพทุกข้อหา

โดยวันนี้พนักงานสอบสวนจะยื่นเรื่องฝากขังทั้งสองคนต่อศาลจังหวัดสงขลาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และคัดค้านการประกันตัว แต่สามารถยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลได้ หากศาลไม่ให้ประกัน ก็จะส่งตัวจาก สภ.เมืองสงขลาเข้าเรือนจำจังหวัดสงขลาทันที

นายศุภสัณห์ บุญโญภาส ทนายของเบสและบอม เปิดเผยว่า ในวันนี้จะยื่นเรื่องของประกันตัวทั้งสองคนในชั้นศาลแต่ยังไม่ทราบว่าศาลจะให้ประกันหรือไม่ และทั้งเบสและบอมก็มีอาการเครียดและกังวลบ้างซึ่งเป็นธรรมดาเพราะเพิ่งเจอคดีเป็นครั้งแรก

จากการสอบสวนทั้งสองคนก็ยอมรับสารภาพโดยเฉพาะเบส ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชัดเจนเช่นการโพสต์ในเฟสบุ๊ก ส่วนบอมสามีนั้นเข้าไปเกี่ยวกรณีที่ถูกนำบัญชีไปใช้โอนเงิน แต่ไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องเงินหรือการบริหารจัดการกลุ่มบ้านออมเบส ความเสียหายที่เกิดขึ้น 106 ล้านบาท จากจำนวนผู้เสียหาย 348 รายเป็นตัวเลขรวมกลมๆที่ผู้เสียหายนำเงินไปร่วมลงทุน

นายศุภสัณห์ กล่าวอีกว่า ในความเป็นจริงแล้วมียอดเงินที่ยังค้างอยู่ประมาณ 20 ล้านบาทเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาได้มีการจ่ายเงินปันผลตอบแทนตามข้อตกลงไปเต็มจำนวนแล้วก็มี บางกลุ่มก็ได้เงินปันผลไปบางส่วนแล้วก็มี แต่ก็ยังมีอีกบางส่วนที่ยังไม่ได้เงินเลย และได้มีการเคลียร์กับชาวบ้านที่ร่วมลงทุนไปแล้ว340 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน