จากกรณีที่การประกาศตามหา 2 หนุ่มพลเมืองดี ที่ได้ทำซีพีอาร์ช่วยชีวิตเด็กชายวัย 3 ขวบ หลังตกสระว่ายน้ำภายในวิลล่าแห่งหนึ่ง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา จนรอดชีวิตตามเพจเฟซบุ๊กต่างๆ กระทั่งทราบว่า 2 พลเมืองดีดังกล่าวชื่อนายณัฐวุฒิ ทิมพิทักษณ์ หรือโน้ต อายุ 32 ปี และ นายสมิธ เซ่งเครือ หรือเฟิร์ส อายุ 26 ปี ชาว ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท SCG Packaging ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อขอเข้าพบ

นายณัฐวุฒิ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงวันหยุดพักผ่อน ตนกับเฟิร์ส และกลุ่มเพื่อนที่ทำงาน ได้พาครอบครัวไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่ทะเล โดยได้เช่าบ้านพักในวิลล่าแห่งหนึ่ง จนกระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 29 ต.ค. ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่ในบ้านก็ได้ยินเสียงโวยวายจากบ้านพักข้างๆ แล้วก็มีผู้หญิงวิ่งมาหาตน พร้อมกับขอเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน ตนจึงได้บอกเบอร์สายด่วน 1669 ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ไป แล้วจึงได้วิ่งเข้าไปดูเหตุการณ์ เมื่อไปถึงพบเด็กชายนอนอยู่บนขอบสระ สภาพตัวเหลืองซีด เล็บเป็นสีม่วง ท้องป่องกลม ซึ่งประเมินดูจากสถานการณ์ คาดว่าเด็กคงจมน้ำมานานพอสมควร ตนกับเฟิร์ส จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือทันที โดยการทำซีพีอาร์หรือการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน ที่เคยได้รับการอบรมมาจากที่ทำงาน

นายสมิธ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นตนได้ตรวจดูสัญญาณชีพ ทั้งบริเวณลำคอและข้อมือซ้าย อาจจะด้วยความตื่นเต้นและสถานการณ์ที่บีบคั้น ทำให้ไม่พบสัญญาณชีพของเด็กเลย แต่ก็ตัดสินใจปั๊มหัวใจสลับกับการผายปอดกับพี่โน๊ต ในขณะที่ทำซีพีอาร์ก็ได้ใช้โทรศัพท์มือถือส่งข้อมูลขอความช่วยเหลือผ่านแอพพลิเคชั่น ThaiEMS1669 จนกระทั่งในระยะเวลาประมาณ 10 นาที รถหน่วยกู้ชีพก็มาถึงที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นก็ได้รับการติดต่อจากผู้ปกครองของเด็กที่จมน้ำแล้ว ซึ่งทำให้ทราบว่าเด็กมีอาการดีขึ้น ทำให้พวกตนรู้สึกดีใจมาก และอยากขออวยพรให้น้องหายป่วยโดยเร็ว และจะไปเยี่ยมหาที่โรงพยาบาล

นอกจากนั้น นายณัฐวุฒิ และ นายสมิธ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า สาเหตุที่ใช้แอพในการติดต่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากพวกตนเป็นคนต่างถิ่น จะไม่สามารถระบุสถานที่เกิดเหตุได้อย่างแม่นยำ แต่แอพนี้จะทำการค้นหาตำแหน่งผ่านจีพีเอส ซึ่งแม่นยำกว่า พวกตนจึงขอแนะนำว่า แอพนี้ควรเป็นแอพที่ทุกคนควรโหลดติดไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพราะจำเป็นมากหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปหา นางวรรณิภา ตะนุลานนท์ หรือ ทราย คุณแม่ของ “น้องเฟรส” ที่จมน้ำ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งอาการล่าสุดของลูกชาย โดยนางวรรณวิภา เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวได้เที่ยวพักผ่อนและฉลองวันเกิดครบ 3 ขวบของน้องเฟรส จนกระทั่งตอนเช้าพบว่าลูกชายหายออกจากห้องไป เนื่องจากกลอนประตูห้องเสีย ไม่สามารถล็อคได้ จึงรีบออกตามหา และพบน้องเฟรสจมน้ำอยู่ในสระว่ายน้ำ จึงรีบนำตัวขึ้นมา และเพียงไม่นานก็มีพลเมืองดี 2 คนวิ่งเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งปั๊มหัวใจและผายปอด จนกระทั่งมีรถกู้ชีพฉุกเฉินของโรงพยาบาลชะอำมารับตัวไปรักษา แต่อาการของน้องเฟรสค่อนข้างหนัก จึงต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร โดยในขณะนี้น้องเฟรสมีอาการดีขึ้นเล็กน้อย เริ่มรู้สึกตัว มีการลืมตา และขยับศีรษะ แต่ยังต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิดจากแพทย์

ในวันนั้นตอนที่เห็น ทั้งนายณัฐวุฒิ และนายสมิธ รีบวิ่งเข้ามาทำการช่วยเหลือจนน้องเฟรสถึงแพทย์ ตนดีใจมาก รู้สึกว่าตนและลูกมีบุญเหลือเกินที่ได้มาพบเจอคนดีๆ ที่ช่วยให้ลูกได้ลืมตาและมีชีวิตใหม่อีกครั้ง ซึ่งหลักจากที่น้องเฟรสมีอาการดีขึ้นมากกว่านี้ ตนตั้งใจจะเดินทางไปพบฮีโร่ทั้ง 2 คน เพื่อขอบคุณนายณัฐวุฒิ และนายสมิธ ด้วยตนเอง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน