เวลา 08.30 น. วันที่ 10 พ.ย. นายสุรวิทย์ ต.ประยูร อายุ 30 ปี เจ้าของคอนโดแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบบริเวณอาคารอเนกประสงค์ “ศาลาประชาร่วมใจชุมชนสนามบิน” ตั้งอยู่บนถนนพระบาท ซอย 1 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง หลังพบว่าอาคารดังกล่าวก่อสร้างบนถนนทางสาธารณประโยชน์ และสร้างปิดทางเข้าออกที่ดินของนายสุรวิทย์ โดยอาคารดังกล่าวมีขนาด 8 x 16 เมตร ซึ่งชุมชนใช้งบประมาณเอสเอ็มแอล จากรัฐบาลผ่านเทศบาลนครลำปางก่อสร้าง ก่อนก่อสร้างก็ไม่ได้แจ้งให้ตนหรือสอบถามความคิดเห็นตน ทั้งๆที่เป็นเจ้าของที่ดินที่อยู่ติดริมถนนพระบาทซอย 1 แต่อย่างใด

โดยเมื่อเริ่มก่อสร้างตนเองทราบเรื่องก็เห็นว่ามีการก่อสร้างปิดทางเข้าออกที่ดินของตนเองทั้งหมดตนจึงยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง เมื่อศูนย์ดำรงธรรมตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นหน้าที่ของเทศบาลนครลำปาง จึงให้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังเทศบาลนครลำปาง ซึ่งพ่อของตนคือ นายสุรพล ต.ประยูร อายุ 61 ปี ได้ทำหนังร้องเรียนไปถึงนายกเทศมนตรีนครลำปางเมื่อวันที่ 29 เม.ย.58 มีข้อความว่า “ขอให้เทศบาลนครลำปางตรวจสอบการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ของชุมชนสนามบิน โดยอาคารนี้ได้สร้างบนทางสาธารณะประโยชน์ และปิดบังทางเข้าออกที่ดินของตนเอง บริเวณถนนพระบาทซอย 1 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ตรงข้ามบ้านเลขที่ 8

ต่อมาในวันที่ 6 พ.ค.58 ผอ.ส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง เทศบาลนครลำปาง รับเรื่องและส่งให้เจ้าหน้าที่มาติดตามและดำเนินการตามระเบียบในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทุกอย่างเหมือนจะได้รับการตรวจสอบซึ่งตนเองก็รอเพราะเชื่อว่าทางเทศบาลนครลำปางจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายการก่อสร้างก็แล้วเสร็จ ตนก็ไม่เห็นมีอะไรคืบหน้าทุกอย่างเงียบหายไป ซึ่งเห็นว่าหากปล่อยไว้เช่นนี้ที่ดินของตนเองซึ่งขณะนี้ถูกปิดทางออกก็จะไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ เนื่องจากกำลังวางแผนทำอาคารพาณิชย์ จึงเข้าไปติดตามเรื่องดังกล่าวกับทางเทศบาลนครลำปางแต่นายกเทศมนตรีนครลำปางอ้างว่าหนังสือร้องเรียนฉบับดังกล่าวหายและขอให้ตนยื่นเรื่องมาใหม่ อีกทั้งอ้างว่าไม่ต้องการทะเลาะกับชาวบ้าน

ทั้งนี้ตนเองเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมซึ่งเทศบาลนครลำปางโดยนายกเทศมตรีนครลำปางในฐานะเจ้าพนักงานกลับปล่อยปะละเลยและไม่ดำเนินการใดๆ ปล่อยให้มีการนำเงินของรัฐมาก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่บนถนนทางสาธารณะประโยชน์ได้อย่างไร แม้ก่อนหน้านี้จะมีการร้องเรียนทักท้วงไปแล้วแต่ก็ยังเพิกเฉยปล่อยให้ก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของตนเองด้วย

อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนเองกำลังปรึกษาทนายความเพื่อจะขอให้ทางสำนักงานที่ดินมาทำการรังวัดแนวเขตให้ชัดเจน เมื่อชัดเจนแล้วก็จะให้ทนาย ความดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเองและจะให้ดำเนินการทางกฎหมายกับเจ้าพนักงานที่ปล่อยปละละเลยในเรื่องดังกล่าวด้วย หากยังไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเองโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบอาคารเอนกประสงค์หลังดังกล่าวก็พบว่าเพิ่งมีการก่อสร้างเสร็จมาไม่นานนี้ และตั้งอยู่บนทางสาธารณะจริงโดยจะสังเกตจากอาคารพาณิชย์ที่มีการก่อสร้างในพื้นที่เดียวกันซึ่งจะก่อสร้างอยู่หลังแนวเขตของเสาไฟฟ้าทั้งหมด แต่จะมีเพียงอาคารหลังดังกล่าวที่สร้างรุกล้ำออกมาบนถนนอย่างเด่นชัดและปิดพื้นที่ของเจ้าของที่ดินที่ร้องเรียนทั้งหมด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน