เปิดภาพวงจรปิด! นาทีพายุฝนถล่มกลางสี่แยกบางน้ำเปรี้ยว เห็นแล้วกลัวแทน ซัดน้ำเป็นคลื่น เต็นท์พังคาตา หวิดทับรถเก๋งจอดติดไฟแดง บ้านพังเกือบ 50 หลัง

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุพายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนักในพื้นที่บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา โดยภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณสี่แยกไฟแดงบางน้ำเปรี้ยว ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ เผยให้เห็นภาพลมพายุฝนได้พัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ทำให้เต็นท์จุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์พังถล่มลงมา ขณะที่พายุฝนได้ตกกระหน่ำในหลายพื้นที่ของจังหวัดฉะเชิงเทรา แรงลมทำให้บ้านเรือนของชาวบ้าน ต.หมอนทอง อ.บางน้ำเปรี้ยว ได้รับความเสียหายหลายเกือบ 50 หลังคาเรือน

ทั้งร้านค้าในชุมชน หรือบ้านประชาชน ต่างได้รับความเสียหาย โดยบางบ้านถูกต้นไม้ใหญ่ล้มทับ บางบ้านถูกสิ่งของปลิวมาใส่ทำให้ฝ้าหลังคาแตก และบางบ้านกระเบื้องหลังคาได้ถูกลมพายุหอบไปหมดหลัง ข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับความเสียหายจากน้ำฝนที่ตกลงมา

ขณะเดียวกันแรงลมพายุ ยังได้พัดทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่น 14 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน บางจุดมีสายไฟห้อยตกลงมาหน้าทางเข้าบ้านเรือนประชาชน ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในซอยนั้นไม่กล้าออกมา นอกจากนี้แรงลมยังทำให้ตนกล้วย มะม่วงและพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านที่ปลูกไว้ได้รับความเสียหาย

ด้าน น.ส.พัชรินทร์ นวนแก้ว อายุ 38 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.หมอนทอง เปิดเผยว่า ลมพายุมาเร็วและแรงมาก ทั้งลมและฝน ตนเก็บข้าวของไม่ทัน ได้แต่วิ่งหาที่หลบ ตอนแรกตกมาหนักอยู่แต่ไม่คิดว่าจะมีลมแรงขนาดนี้ ทำให้หน้าต่างประตูที่ล็อคไว้เปิดอ้าหมด ส่วนญาติของตนก็ถูกชิ้นส่วนกระเบื้องพัดมาโดนมือต้องเย็บไปถึง 9 เข็ม

ขณะที่ นางส้มลิ้ม สุดจิตร อายุ 79 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.หมอนทอง เปิดเผยว่า ตนกำลังจะกินข้าว ได้เกิดฝนตกลงมาเร็วมาก แรงลมพัดประตูบ้านหลุดกระเด็น ตนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนร้องไห้พนมมือ ขอให้หลวงพ่อโสธรช่วย ทั้งฝนทั้งลมก็พัดอยู่อย่างนั้นประมาณ 30 นาทีจึงสงบลง ตนอายุจะ 80 แล้วไม่เคยเจออะไรอย่างนี้มาก่อน

ทางด้าน นายสุชาติ โตอัจฉริยะวงศ์ อายุ 47 ปี ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า หลังพายุสงบลงได้ทำการสำรวจ พบเสาไฟล้ม 14 ต้น และก็มีทอนหัวเสาหักไปประมาณ 20 ต้น ขณะนี้ได้รวบรวมทีมงานในสังกัดจำนวน 8 ทีม เร่งตั้งเสาและแก้ไขปัญหา คาดว่าน่าจะจ่ายไฟให้ชาวบ้านได้ในเวลา 22.00 น.คืนนี้ ขณะที่ นายยศพล เลิศศิริ อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ตนพร้อมเพื่อนเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาช่วยขนย้ายสิ่งของ บ้านที่หลังคาเปิด เพื่อขนย้ายไปหาที่หลบภัยชั่วคราวจนกว่าจะมีการซ่อมแซมบ้านแล้วเสร็จ ทั้งนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหมอนทอง ได้ลงพื้นที่พร้อมสำรวจความเสียหายในเบื้องต้นแล้ว และจะทำการช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน