วันที่ 15 พ.ย. ร.ต.อ.เอกพจน์ ทิมทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถพ่วงบรรทุกข้าวตกร่องกลางถนนพลิกตะแคงมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย บนถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ บริเวณหน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดประจวบฯ เขต 2 ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม ประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยตำรวจทางหลวงปราณบุรี-สามร้อยยอด ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วงมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน 70-6667 เพชรบุรี ตกอยู่ในร่องกลางถนนสภาพพลิกตะแคงข้าง ชนเสาไฟฟ้าหัก 2 ต้น ข้าวสารที่บรรทุกมาตกหล่นกระจัดกระจาย นอกจากนี้พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหนึ่งรายนั่งมาด้านข้างคนขับ เจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่งโรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ ส่วนคนขับรถคือนายมินะ สหะวัน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 ถนนสามัคคี ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวน นายมินะ ให้การโดยอ้างว่า ได้ไปรับข้าวสารมาจาก จ.ชัยนาท เพื่อนำไปส่งที่ จ.ปัตตานี ระหว่างทางรถเกิดเสียหลักพุ่งตกร่องกลางถนนชนเสาไฟฟ้าแล้วพลิกตะแคงทำให้ข้าวสารที่บรรทุกมาหล่นกระจัดกระจายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นก็สังเกตเห็นว่านายมินะ ท่าทางมีพิรุธ ตำรวจจึงได้เดินตรวจสอบกองข้าวที่หล่นมากองอยู่กับพื้นก็พบว่ามีถุงปุ๋ยลักษณะไม่เหมือนกับที่บรรจุข้าวสารมา จึงได้เปิดดูก็พบว่าภายในกระสอบมีขวดลักษณะคล้ายขวดยาแก้ไอจำนวนมาก ซุกซ่อนใต้กองถุงข้าวสาร 18 ถุง บรรจุถุงละ 200 ขวด รวมเป็น 3,600 ขวด จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง และนำตัวนายมินะ ไปสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งเชิญเจ้าหน้าที่สาธาณะสุขจังหวัดประจวบฯ มาร่วมตรวจสอบว่าเป็นอาหารเสริม หรือยาแก้ไอ ที่นำไปทำเป็นสารเสพติดชนิด 4X100 หรือไม่

ซึ่งนายมินะ ก็ให้การยอมรับเพียงว่า ขวดยาทั้งหมดมีคนรู้จักฝากนำไปส่งให้กับพรรคพวกที่ จ.ชุมพรเท่านั้น ไม่ใช่ของตนเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะพฤติกรรมต้องสงสัยหลายอย่าง และปฎิเสธที่จะให้ข้อมูลตั้งแต่แรก เพราะอ้างว่ามีแต่ข้าวสาร แต่กลับพบขวดยามากถึง 3,600 ขวด

ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข กล่าวว่า ขวดที่พบมีฉลากระบุเป็นอาหารเสริมชนิดหนึ่ง ซึ่งมีส่วนผสมเป็นมะตูมกับเก๊กฮวย แต่ภายในขวดยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอาหารเสริมหรือเป็นยาแก้ไอ จะต้องส่งให้กรมวิทยาศาสตร์ กระทรวงสาธารณะสุขตรวจสอบเพื่อความชัดเจนว่าภายในขวดเป็นตัวยาอะไร ถ้าพบว่าเป็นยาแก้ไอ ตำรวจจะออกหมายเรียกคนขับรถมาทราบข้อกล่าวหา แต่ถ้ายังไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน