กรณีศาลจังหวัดนครพนม มีคำพิพากษาคดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือครูจอมทรัพย์ อดีตครูใน จ.สกลนคร ขับรถชนคนตาย ในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค.48 เจ้าตัวถูกตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน ก่อนได้รับการอภัยโทษ จึงติดคุกแค่ 1 ปี 6 เดือน ก่อนเข้าร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอรื้อฟื้นคดีใหม่ จึงนำไปสู่การสืบพยานหลักฐานใหม่ เมื่อวันที่ 8-10 ก.พ. 2560 กระทั่งวันที่ 17 พ.ย. ศาลจังหวัดนครพนม ได้ยกคำร้องนางจอมทรัพย์ หลังพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานหลักฐานของครูจอมทรัพย์ที่นำสืบในห้วงดังกล่าว ไม่มีความน่าเชื่อถือและมีพิรุธ ศาลจึงมีความเห็นให้ยกคำร้อง ต่อมา ผบก.ภ.จว. เตรียมดำเนินคดีกับพยานเท็จของนางจอมทรัพย์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 พ.ย. พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้คณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการคลี่คลายคดีครูจอมทรัพย์ หลังศาลมีคำพิพากษา เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการที่มีหลักฐานว่า เป็นการสร้างพยานเท็จหรือมีขบวนการรับจ้างทำผิดแทน เบื้องต้นมอบหมายให้ พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ชมศรีหาราช พนักงานสอบสวน สภ.นาโดน ในช่วงขณะเกิดเหตุ พร้อม พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สัมฤทธิ์สกุลชัย เข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในพื้นที่ สภ.นาโดน สภ.เรณูนคร อ.เรณูนคร และ สภ.เมืองนครพนม

พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งความกล่าวหาดำเนินคดีกับนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนสนิทนางจอมทรัพย์ ที่เคยนำพยานหลักฐานสำคัญมายืนยันต่อพนักงานสอบสวนว่านางจอมทรัพย์ไม่ได้กระทำผิด หลังนางจอมทรัพย์พ้นโทษออกมาเมื่อปี 2558 ก่อนจะร้องต่อกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอรื้อฟื้นคดี และยังแจ้งความกล่าวหานายสับ ว่าปี ที่อ้างว่าเป็นคนขับรถตัวจริง ตามความเอาผิดประมวลกฎหมายอาญา ฐานความผิดแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน รวม 3 มาตราคือ 137, 172, และ173 ส่วนคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างรอการสอบสวนขยายผล หากมีส่วนเกี่ยวข้อง จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด ซึ่งทางพนักงานสอบสวน จะต้องออกหมายเรียกมาสอบสวนตามขั้นตอน

ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวต่อไปว่า เนื้อหาสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าแจ้งความนั้น พบพิรุธจากหลักฐานในการเข้าแจ้งความ รวมถึงลงการประจำวันที่มาให้การตำรวจ ที่ สภ.เรณูนคร ของนายสุริยา เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2556 อ้างว่านายเสริฐ รูปสะอาด เป็นคนขับรถตัวจริง ไม่ใช่นางจอมทรัพย์ จึงต้องการมาลงบันทึกเพื่อนำไปเป็นพยานหลักฐานช่วยนางจอมทรัพย์ ก่อนเงียบหายไป ต่อมา เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 57 นายสุริยา นำนายสับ วาปี ไปแจ้งความลงประจำวัน ที่ สภ.นาโดน ท้องที่เกิดเหตุขณะนั้น เพื่อให้ดำเนินคดี ยืนยันว่าเป็นคนขับรถตัวจริง ทำให้มีคนขับรถถึง 2 คน

“ถือเป็นข้อพิรุธสำคัญที่จะป็นหลักฐาน รวมถึงสำนวนคำให้การที่ศาลจังหวัดนครพนม ในการเบิกความต่อศาลช่วงการพิจารณาไต่สอนรื้อฟื้นคดี 3 วัน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า นายสุริยา จะเป็นกุญแจสำคัญที่เชื่อมโยงเอาผิดขบวนการรับจ้างทำผิดแทนนางจอมทรัพย์ และจะสอบสวนขยายผลต่อไป ขณะเดียวกันหากพยานที่เหลือคนไหน ที่ให้การไม่สอดคล้องกัน เมื่อเทียบกับเอกสารหลักฐานของตำรวจ เมื่อเทียบกับคำให้การของศาล จะตรวจสอบดำเนินคดีทั้งหมดว่ามีเจตนาให้การเท็จหรือไม่ หากเข้าข่ายความผิดก็จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีอีกต่อไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน