ลูกสาวกตัญญู ไปทำเรื่องฉีดวัคซีนโควิดให้พ่อพิการ เบนซ์ชนดับ เผยกำลังได้งานราชการ ครับครัวสุดเศร้า เพื่อนบ้านเผย เป็นเด็กนิสัยดี เรียนเก่ง
วันที่ 16 พ.ค.2564 จากกรณี น.ส.ดลนภา อายุ 23 ปี ประสบอุบัติเหตุ ขี่จยย.เฉี่ยวชนกับรถเบนซ์หรู จนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ขณะกำลังขี่จยย.ไปทำเรื่องเพื่อขอให้พ่อซึ่งเป็นผู้พิการได้ฉีดวัคซีนโควิด19 ขณะที่ ตำรวจ สภ.ท่าม่วง ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า จยย.ของผู้เสียชีวิต พยายามกลับรถ ในขณะที่รถเบนซ์คู่กรณีขับมาในทางตรงด้วยความเร็ว ทำให้เบรกไม่ทันและพุ่งชนเข้าอย่างจัง
แต่ทั้งนี้ ทางตำรวจจะต้องตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งว่าคู่กรณีขับรถมาด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ หากพบว่าขับรถมาด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดก็จะเข้าข่ายประมาทร่วม ส่วนเรื่องการตกลงชดเชยความเสียหายก็เป็นเรื่องที่ทั้งคู่จะไปเจรจาตกลงกันต่อไป
ส่วนบรรยากาศงานบำเพ็ญกุศลร่างน.ส.ดลนภา ที่วัดท่าล้อ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พบว่าเป็นไปด้วยความโศกเศร้า นางเดือนนภา อายุ 45 ปี แม่น.ส.ดลนภา กล่าวว่า ทุกวันนี้ตนแยกกันอยู่ กับพ่อของลูกสาว โดยตนย้ายไปทำงานอยู่ที่อ.บ่อพลอย วันเกิดเหตุหลังทราบเรื่อง ตนก็รีบเดินทาง มาดูลูกสาวทันที ยอมรับว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังคงทำใจไม่ได้ กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เพราะลูกสาวคนนี้ถือเป็นกำลังหลักที่รับหน้าที่ในการดูแลครอบครัว โดยเฉพาะการดูแลพ่อซึ่งเป็นผู้พิการ
ซึ่งน.ส.ดลนภา จะเป็นคนดำเนินการเรื่องต่างๆให้ทั้งหมด ในวันเกิดเหตุก็เช่นเดียวกัน ขณะที่ในส่วนของคู่กรณี จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เข้ามาพูดคุยตกลงใดๆกัน มีเพียงการนัดหมายว่าจะเข้ามาพูดคุยหารือถึงความรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ยังคงเฝ้ารออยู่ว่าจะเข้ามาเมื่อใด ส่วนเรื่องของคดีนั้นก็คงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุในครั้งนี้
นายชาตรี อายุ 52 ปี พ่อของน.ส.ดลนภา ซึ่งเป็นผู้พิการอัมพฤกษ์ เดินไม่สะดวกต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันตลอดเวลา กล่าวด้วยความเศร้าว่า ทุกวันนี้ตนอาศัยอยู่ที่บ้านพร้อมกับลูกสาวทั้ง 2 คน โดยจะรับหน้าที่ผลัดกันคอยดูแลตน เนื่องจากตนได้แยกกันอยู่กับภรรยามาหลายปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้ตนยังทำงานได้เป็นปกติ ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุจยย.ล้มจนกลายเป็นผู้พิการเดินไม่สะดวกและไม่สามารถทำงานได้เหมือนเช่นในปัจจุบัน
รายได้หลักก็มีเพียงเบี้ยยังชีพคนพิการ และบัตรสวัสดิการของรัฐเท่านั้น โดยน.ส.ดลนภา เป็นลูกคนโตหลังจากเรียนจบก็ได้เข้าทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว กระทั่งช่วงการระบาดของโควิด ที่ผ่านมา น.ส.ดลนภา ได้ลาออกจากงานที่ทำอยู่และมาสอบเข้ารับราชการ โดยตอนนี้เหลือเพียงรอสอบสัมภาษณ์เพื่อจะเข้าทำงานเท่านั้นแต่ก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตไปซะก่อน
ด้านเพื่อนบ้านของน.ส.ดลนภา เล่าว่า รู้จักกับครอบครัวนี้มานานตั้งแต่ น.ส.ดลนภา ยังเป็นเด็ก และชื่นชมมากเพราะเป็นเด็กดี เรียนเก่ง หลังเรียนจบก็ยังหางานทำหารายได้รับผิดชอบครอบครัวและดูแลพ่อที่เป็นผู้ป่วยอัมพฤกษ์ โดยในวันเกิดเหตุนั้น นางสาวดลนภาได้ขี่รถออกจากบ้านเพื่อจะไปถ่ายเอกสารทำเรื่องขอถุงยังชีพ
และทำเรื่องขอฉีดวัคซีนให้กับผู้เป็นพ่อ ก่อนจะไปประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว หลังทราบข่าวตนเองซึ่งเป็นเพื่อนบ้านยังรู้สึกตกใจและเสียดายกับอนาคตของนางสาวดลนภา ที่ต้องมาจบชีวิตไปก่อนวัยอันควร
