ตราดพบคลัสเตอร์ใหม่ แรงงานกัมพูชาติด 8 คนในชุมชนเดียวกัน สาธารณสุขเร่งควบคุมก่อนบานปลาย พบชอบสังสรรค์หลังเลิกงาน

จากกรณี นายราเชนท์ ชอบรส ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด พบแรงงานกัมพูชา 1 ราย ซึ่งเป็นแรงงานก่อสร้าง ที่อยู่ในพื้นที่ซอยกลางนา มีอาการป่วย จึงนำตัวไปทำการตรวจที่โรงพยาบาลตราด ในวันที่ 6 มิ.ย. 64 และพบว่าติดเชื้อโควิด ต่อมาจึงลงพื้นที่ พร้อมด้วยนายนุกูล กองทรัพย์ สาธารณสุขอำเภอเมืองตราด นำแรงงานกัมพูชา จำนวน 25 คน ที่สัมผัสใกล้ชิดไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด พบผลเป็นบวกจำนวน 7 คน โดยคนหนึ่งเป็นแรงงานประมงทะเลที่ออกทะเลไปทำประมง นอกนั้นเป็นแรงงานทั่วไป

ล่าสุดวันที่ 9 มิ.ย. 64 นายราเชนท์ ชอบรส ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 และนางสาววาสินี เพียรพร้อม รองประธานอสม.หมู่ 1 บ้านเกาะตะเคียน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือตราด ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขอ.เมืองตราด เข้าให้ความรู้ ดูแลไม่ให้แรงงานกัมพูชาและครอบครัวเดินทางออกมานอกพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไปยังชุมชนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งซอยตาแช และซอยลุงโพย ที่มีชุมชนแรงงานกัมพูชาอยู่จำนวนมาก

นายราเชนท์ กล่าวว่า แรงงานกัมพูชาที่ป่วยเป็นแรงงานก่อสร้างทั่วไป และได้เดินทางไปรับจ้างก่อสร้างใน 3 พื้นที่ คือ วัดไผ่ล้อม,วันไร่ป่าหรือวัดธรรมาภิมุข และวัดลำดวน ซึ่งใกล้ชิดกับบุคคลอีกหลายคนเพราะหลังจากกลับมาจากทำประมงแล้วจะมาสังสรรค์กัน นอกจากนี้ ยังมีพระนักเทศก์ชื่อดังของจังหวัดตราด ที่ใกล้ชิดกับแรงงานก่อสร้างรายนี้ด้วย ซึ่งเมื่อพบจึงได้ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอเมืองตราดทำการตรวจแรงงานกัมพูชาที่สัมผัสใกล้ชิดอีก 25 คน และพบว่าติดเชื้อ 7 คน

“จึงต้องทำการควบคุมพื้นที่และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยจะมีมาตรการเข้มด้วยการตรวจหาเชื้อแรงงานกัมพูชาในซอยกลางนาทั้งหมด ในเย็นวันนี้ ส่วนในพื้นที่ใกล้เคียงที่แรงงานกัมพูชาทั้งซอยลุงโพย ,ซอยตาแชขึ้นอยู่กับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองตราดว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนเรื่องการล็อกดาวน์พื้นที่นั้น อาจจะส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ได้” นายราเชนท์ กล่าว

ต่อมา นางสาวศิริพร ภักดี ได้นำอาหารทั้ง ไข่ไก่ ผัก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และผลไม้ มาให้ญาติที่อยู่ในบ้านเช่า และสามีติดเชื้อไวรัสโควิด และถูกกักตัวอยู่ภายในบ้าน โดยต้องวางไว้ที่หน้าห้อง ไม่เข้าในห้อง พร้อมกล่าวด้วยน้ำตาว่า เป็นญาติทราบว่าสามีติดเชื้อโควิด ไม่สามารถออกไปไหน จึงนำมาอาหารมาให้และรู้สึกสงสาร และกลัวตัวเองจะต้องติดไปด้วย

ด้าน นางสุพอน ซง ที่เป็นแม่ค้าขายของที่ขับซาเล้งออกไปขายนอกพื้นที่ เปิดเผยว่า วันนี้ทางอสม.และผู้ใหญ่บ้านห้ามการออกเดินทางไปนอกพื้นที่ และให้ดูแลตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลาแม้จะอยู่ในบ้าน และล้างมือบ่อย ๆ ซึ่งตอนนี้ในตัวมีทั้งแอลกอฮอร์และหน้ากากอนามัยไว้ตลอด ขณะที่การทำมาหากินต้องหยุดไปชั่วคราว

ขณะที่ นางอารี อนันต์ อสม.บ้านเกาะตะเคียน เปิดเผยว่า ซอยตาแชมีแรงงานกัมพูชาอาศัยอยู่เช่นกัน แต่ได้ให้ข้อมูลกับชาวบ้านไว้ว่าให้ดูแลตัวเอง และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งยอมรับว่าเป็นอีกพื้นที่มีความเสี่ยงเช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน