วันที่ 28 พ.ย. ที่สน.สายไหม พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รรท.ผกก.สน.สายไหม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนู สุขเสริม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สายไหม เชิญนางจันทร์ตรา ฤทธิ์มาก อายุ 54 ปี อาชีพขายข้าวเกรียบปากหม้อ พร้อมทั้งคู่กรณีคือนางนงนภัส นวลใย อายุ 59 ปี และนายธานัท เจนจัดการ อายุ 24 ปี ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นแม่ลูกกัน มาสอบสวนเพิ่มเติมภายหลังจากทั้ง 2 ฝ่ายมีการทำร้ายร่ายกายกันจนได้รับบาดเจ็บ โดยสาเหตุมาจากการทวงหนี้นอกระบบเหตุเกิดที่ตลาดวัดเกาะ แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา

นางจันทร์ตรา กล่าวว่า โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 54 ที่ผ่านมา ตนเคยไปกู้ยืมเงินจากนางนงนภัส จำนวน 5,000 บาท ซึ่งตกลงทำสัญญาชดใช้แบ่งจ่ายเป็นแบบรายวันในราคา 250 บาท รวม 24 งวด ทั้งสิ้นเป็นเงินสด 6,000 บาท ซึ่งตนได้ชดใช้เงินทั้งหมดตามข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งในวันเกิดเหตุทั้ง 2 แม่ลูกได้มาทวงหนี้ก้อนเดิมอีกครั้ง แต่ตนไม่ยอมให้เนื่องจากได้ชดใช้ไปแล้ว จนเกิดมีปากเสียงก่อนที่ทางคู่กรณีจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย เมื่อตนเสียหลักล้มลงได้จิกผมหวังจะเอาศรีษะกระแทกกับพื้นแต่ตนได้รีบลุกหนีขึ้นมา ซึ่งระหว่างนั้นนายธานัท ได้ยกเตาถ่านที่ตนใช้ปิ๊งข้าวเหนียวมาราดใส่ที่บริเวณหัวไล่ด้านขวาลามถึงบริเวณลำคอจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลพุพอง

ด้านนายธานัท กล่าวว่า นางจันทร์ตรา ได้กู้ยืมเงินจากมารดาตนตั้งแต่ปี 54-56 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 27,000 บาท ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นเอกสารการกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี อีกทั้งตนไม่ได้เจอกับนางจันทร์ตรา มาหลายปีและยังไม่ได้รับเงินคืนเลยสักครั้ง ส่วนในวันเกิดเหตุตนได้เดินไปเจอนางจันทร์ตรา โดยบังเอิญจึงเข้าไปสอบถามถึงเรื่องเงินที่เคยกู้ยืมกันไว้ แต่นางจันทร์ตรา กลับตอบว่าได้ใช้หนี้ทั้งหมดให้กับแม่ตนไปหมดแล้ว ทั้งๆ ที่แม่ตนป่วยมีโรคประจำตัวทั้งเบาหวานและความดัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเดินทางมาเก็บหนี้เอง จนเกิดมีปากเสียงและมีการทำร้ายร่างกายกัน โดยตนก็ได้รับบาดเจ็บจนเป็นแผลผุพองที่แขนซ้ายเช่นกัน

ด้านพ.ต.อ.ธรากร กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ดำเนินการเรื่องแจ้งความดำเนินคดีกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งเรื่องเอกสารการกู้ยืมเงิน และสอบปากคำพยานแวดล้อมว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร รวมถึงต้องรอผลตรวจร่างกายจากทางแพทย์ของทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้เรื่องของการกู้ยืมเงินกันนั้นจะต้องตรวจสอบว่ามีการคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน