ปมพี่น้องแย่งมรดกพ่อแม่ ตร.คุมตัว หนุ่มขาเป๋ ชี้จุดทำแผนสลด ชาวบ้านพากันหดหู่ เผยผู้ก่อเหตุสะสมความแค้นมานาน น้องชายดุด่าไล่ออกจากบ้าน

จากกรณีนายจรัญ อายุ 47 ปี พี่ชายขาเป๋และแขนซ้ายอ่อนแรง ใช้มีดทำร้ายร่างกายนายสุรศักดิ์ อายุ 41 ปี น้องชายแท้ๆ จนเสียชีวิตขณะนอนดูทีวีภายในบ้าน ที่ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ค.2564 ที่ผ่านมา จากนั้นได้บังคับให้หลานชายอายุ 11 ขวบ ซึ่งเป็นลูกผู้เสียชีวิตพาขี่จยย.หลบหนีไปทางอ.ส่องดาว ระยะทางไกลกว่า 40 กม.แต่รถเกิดเสียกะทันหันและถูกตร.ชุดสืบสวนสภ.หนองหาน ที่ไล่ล่าตามจับกุมเอาไว้ได้

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 21 ก.ค.2564 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.หนองหาน ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี และชุดสืบสวนสภ.หนองหาน ร่วมกันคุมตัวนายจรัญ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในที่เกิดเหตุ

โดยจุดแรก เป็นจุดที่นายจรัญไปซื้อเหล้าขาวจากร้านค้าด้านหลังบ้านแล้วนำมาดื่มกันที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านคนเดียว พอหมดขวดได้เดินเข้าไปในบ้านหยิบมีดอีโต้ที่อยู่ในครัว แล้วเดินตรงปรี่ไปทำร้านนายสุรศักดิ์ ขณะนอนดูทีวีครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่พื้นห้อง หลังจากน้องชายเสียชีวิตแล้วได้บังคับให้หลานชายขับรถจยย. ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอสีฟ้า-ขาว หมายเลขทะเบียน ขคธ 918 สกลนครสกลนครแล้วหลบหนีไปจนถูกตร.ตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

ภายหลังจากทำแผนเสร็จ พล.ต.ต.พิษณุ ได้นำตัวนายจรัญจุดธูปขอขมาต่อหน้ารูปของนายสุรศักดิ์ โดยถามนายจรัญว่าจะบอกน้องว่าอะไร แต่นายจรัญไม่พูดและถามว่าสำนึกไหม ก็ไม่พูดได้แต่ยกธูปขึ้นเหนือหัวแล้วนำไปวางไว้ต่อหน้าร่างน้องชายของตัวเอง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้นำตัวนายจรัญขึ้นรถตู้ไปสภ.หนองหานทันที

พล.ต.ต.พิษณุ เปิดเผยว่า สาเหตุที่พี่ชายทำร้ายร่างกายน้องชายตัวเองจนเสียชีวิต เกิดจากความแค้นใจเรื่องมรดกบ้านและที่ดินที่พี่น้องอาศัยอยู่ เดิมเป็นของพ่อแม่ หลังจากพ่อแม่เสียชีวิตแม่ได้ยกที่ดินและบ้านให้กับผู้เสียชีวิต ส่วนนายจรัญเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด พอกลับมาอยู่บ้านกับน้องชาย ก็มักจะถูกดุด่าและไล่ออกจากบ้านหลายครั้ง จึงสะสมความคับแค้นใจมานาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา กำดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตำรวจได้คุมตัวนายจรัญลงจากรถตู้เพื่อมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น มีชาวบ้านและไทยมุงจำนวนมากมาดูเหตุการณ์ โดยขณะทำแผนอยู่นั้น นางบังอร อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นญาติของผู้ตายและผู้ต้องหาด้วย ได้ปรี่เข้ามาจะทำร้ายร่างกายนายจรัญ

ตำรวจจึงต้องเข้าขวางเอาไว้ พร้อมกับชาวบ้านก็ร้องตะโกนบอกว่าอย่าทำๆ เขารับกรรมและน่าสงสารแล้ว โดยชาวบ้านที่แห่มามุงดูการทำแผนทั้งหดหู่และสงสารผู้ต้องหาด้วย คงจะคับแค้นใจมานานจึงลงมือก่อเหตุสลดดังกล่าว แต่ก็ต้องยอมรับชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อไว้

นอกจากนี้ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ญาติๆ ได้พาด.ช.มาจุดธูปเคารพศพพ่อ โดยด.ช.เล่าว่า ตอนที่ขับรถพาลุงหนีนั้นจู่ๆ รถก็วูบดับถึง 3 ครั้ง ขณะที่ญาติ ๆ เชื่อว่าวิญญาณผู้เสียชีวิตไม่อยากให้ลูกพาลุงหนีจึงทำให้รถดับถึง 3 ครั้งทั้งๆ ที่รถมีน้ำมันอยู่สามารถขับไปได้ไกลกว่านี้

นางบังอร เปิดเผยว่า จากนี้ไปบ้านหลังนี้ก็จะปิดเอาไว้ก่อนญาติๆ กำลังคุยกันอยู่ว่าจะยกให้ด.ช.หรือไม่ หรืออาจจะขายแล้วนำเงินมาแบ่งให้กับทายาทหรือญาติพี่น้องและนายจรัญหากพ้นโทษออกมาคงต้องคุยกันก่อนว่าจะทำอย่างไรกับบ้านหลังนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตร.ได้คุมตัวนายจรัญลงจากรถตู้เพื่อมาทำแผนปรากฏว่านางบังอรอายุ 65 ปีซึ่งเป็นเพื่อนแม่ของผู้ตายและผู้ต้องหาด้วยได้ปรี่เข้ามาจะทำร้ายร่างกายนายจรัญ เจ้าหน้าที่ตร.เห็นเหตุการณ์ก่อนจึงดักเอาดักเอาไว้ทันหวุดหวิด พร้อมกับชาวบ้านก็ร้องตะโกนบอกว่าอย่าทำๆ เขารับกรรมและน่าสงสารแล้ว โดยชาวบ้านที่แห่มามุงดูการทำแผนทั้งหดหู่และสงสารผู้ต้องหาด้วยคงจะคับแค้นใจมานานจึงลงมือก่อเหตุสลดดังกล่าว แต่ก็ต้องยอมรับชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อไว้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน