เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก นางกนกพร ใสจอมศรี อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 60 ม.10 บ้านปงท่าขัว ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง อสม.บ้านปงท่าขัว ว่าพบครอบครัวเด็กพิการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แข้งขาลีบ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อยู่ในห้องเช่าแบบแบ่งเช่าห้องเล็กๆ เลขที่ 85 ซอยหน้าวิทยาลัยพยาบาลลำปาง ถนนป่าขาม ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง มีพี่สาวดูแลป้อนข้าว ป้อนน้ำช่วยเหลือ แทนแม่ที่ออกไปทำงานรับจ้างเป็นแม่บ้านทำความสะอาด เพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกและครอบครัว ตรวจสอบห้องพักที่เป็นห้องเจ้าของบ้านแบ่งให้เช่าขนาดเล็ก มีเพียงหน้าต่างบนเกร็ดด้านหน้า ไม่มีหน้าต่างด้านหลัง
พบ ด.ช.วันชัย ซุ่มขวัญ หรือ น้องชัย อายุ 8 ขวบ นอนอยู่บนที่นอนเก่าๆ บนพื้นห้องพักที่คับแคบ ในห้องมีเพียงผ้าห่มเก่าๆ และทีวีจอแบนเก่าๆ 1 เครื่อง และพัดลมเก่า ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก นางกนกพร ใสจอมศรี อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 60 ม.10 บ้านปงท่าขัว ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง อสม.บ้านปงท่าขัว ว่าพบครอบครัวเด็กพิการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แข้งขาลีบ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ อยู่ในห้องเช่าแบบแบ่งเช่าห้องเล็กๆ เลขที่ 85 ซอยหน้าวิทยาลัยพยาบาลลำปาง ถนนป่าขาม ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง มีพี่สาวดูแลป้อนข้าว ป้อนน้ำช่วยเหลือ แทนแม่ที่ออกไปทำงานรับจ้างเป็นแม่บ้านทำความสะอาด เพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกและครอบครัว ตรวจสอบห้องพักที่เป็นห้องเจ้าของบ้านแบ่งให้เช่าขนาดเล็ก มีเพียงหน้าต่างบนเกร็ดด้านหน้า ไม่มีหน้าต่างด้านหลัง พบ ด.ช.วันชัย ซุ่มขวัญ หรือ น้องชัย อายุ 8 ขวบ นอนอยู่บนที่นอนเก่าๆ บนพื้นห้องพักที่คับแคบ ในห้องมีเพียงผ้าห่มเก่าๆ และทีวีจอแบนเก่าๆ 1 เครื่อง และพัดลมเก่า ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ
นางไพวรรณ์ ทะแก้ว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 ถนนเทศบาล 4 ต.ขลุง อ.ขลุง จ.จันทบุรี แม่น้องชัย เปิดเผยว่า ภูมิลำเนาเดิมเป็นคน จ.จันทบุรี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป เลี้ยงลูกสาวและลูกชายโดยคนโตเป็นหญิงชื่ออาหมวย ชุ่มขวัญ อายุ 13 ปี และคนเล็ก ด.ช.วันชัย หรือน้องชัย อายุ 8 ขวบ ที่พิการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องดูแลตลอดเวลาเดิมลูกเกิดมาก็มีอาการปกติเหมือนเด็กทั่วไป หลังจากนั้นอีก 3 ปี ตนเองและครอบครัวได้ไปทำงานที่ จ.นครนายก พบว่าลูกมีอาการผิดปกติเดินและหรือนอนคว่ำไม่ได้เหมือนเด็กทั่วไปทั้งที่อายุ 3 ขวบแล้ว จึงพาลูกไปตรวจที่ ร.พ.นครนายก หมอบอกว่า ลูกเป็นโรคสมองด้านหน้าฝ่อ ทำให้ร่างการอ่อนแอ กล้ามเนื้อไม่มีแรง แข้งขาลีบ ต้องออกจากงานพาลูกชายกลับมารักษาตัวที่บ้าน จ.จันทบุรี และต้องพาลูกไปหาหมอตามนัดทุกเดือน บางเดือนก็ไม่ได้ไปเนื่องจากไม่มีเงินค่ารถ และเมื่อมาอยู่ที่ จ.ลำปาง จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่เคยไปหาหมอเลย โดยอาศัยอยู่แต่ในบ้านเท่านั้นและไม่ได้ไปหาหมออีกเลย เพียงแต่ตอนเย็นก็พาลูกออกกำลัง กายบริหารร่างกาย ทำกายภาพบำบัดบริเวณหน้าห้องพักเท่านั้น อยากให้ลูกหายแต่ไม่มีเงินค่ารักษา
เมื่อต้นปีสามีหนีไปมีครอบครัวใหม่ จึงเดินทางมาหาเพื่อน และให้ช่วยหางานทำที่ จ.ลำปาง ได้งานเป็นแม่บ้านรับจ้างทำความสะอาดได้ค่าแรงวันละ 300 บาท หากวันไหนไม่ได้ทำงานก็ไม่มีรายได้ และต้องหาเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน รวมทั้งค่าใช้จ่ายค่าแพมเพอร์ส ค่าอาหาร ข้าว และนมลูก ถ้ารอแต่ค่าจ้างคงไม่พอ จึงต้องออกหางานทำทุกอย่างที่ได้เงิน โดยภาระเลี้ยงดูลูกชายตอนกลางวันที่ตนเองออกไปทำงาน ให้ลูกสาว หรือน้องหมวย คอยเลี้ยงดูป้อนข้าว ป้อนน้ำ อาบน้ำและเปลี่ยนแพมเพร์สให้น้องในช่วงตอนกลางวันที่ตนออกไปทำงานจนถึงงานเลิก 5 โมงเย็น และน้องหมวยต้องออกจากโรงเรียนขณะจบ ม.1 จะขึ้น ม.2 โรงเรียนชุมชนวัดแสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด เพื่อมาช่วยดูแลน้องแทน เนื่องจากไม่มีใครมาดูแลแทนและไม่มีค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อดังกล่าว
นางไพวรรณ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ต้องเช่าบ้านห้องแคบๆ อาศัยอยู่กัน 3 คน เดือนละ 1,400 บาท ค่าน้ำ ค่าไฟอีกต่างหาก โดยมีรายได้จากเบี้ยยังชีพคนพิการของลูกชายเดือนละ 800 บาท ทำให้ไม่พอค่าใช้จ่ายจึงต้องหางานทำรับจ้างทั่วไป โชคดีที่ได้ทำงานที่ร้านเกียรติการค้า ถนนทิพย์ช้าง อ.เมืองลำปาง ร้านขายผ้าห่มน่วม และนางเพ็ญศรี บุญะกานนท์ เจ้าของร้านใจดี แบ่งปันอาหารมาทานที่บ้านหลังเลิกงาน และบางวันต้องซื้อกินเอง เนื่องจากไม่มีสิ่งอำนวยความสะอวด หม้อหุงข้าว กระทะ ตู้เย็น มีเพียงพัดลมและทีวีเก่า เนื่องจากเจ้าของบ้านเช่า ไม่ให้ทำกับข้าวที่ห้องพัก แต่ลูกชายที่พิการตนต้องไปซื้อข้าวต้มหรือโจ๊กมาป้อนทุกวัน รวมทั้งนม เพราะทานอาหารไม่ได้เหมือนคนอื่น ต้องทานอาหารเหลว รวมทั้งแพมเพอร์ส ต้องซื้อเปลี่ยนตลอดเนื่องจากช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทำให้ค่าแรงที่ได้ ไม่พอกับค่าใช้จ่าย อีกทั้งตนเองก็มีโรคประจำตัวเป็นโรคไทรอยด์ ต้องไปหาหมอตลอดแต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ไปหาหมอมากว่า 6 เดือนแล้ว เนื่องจากไม่มีเงินไป รพ. และจ่ายค่ายา อีกทั้งแพ้ยาด้วยทำให้เกิดอาการแข้งขาบวมจึงต้องหยุดยาและไม่ไปหาหมอ เพราะต้องหางานทำเลี้ยงลูกทั้งสอง หากไม่มีรายได้ก็ไม่มีใครมาช่วยเหลือได้
ทุกวันนี้เป็นห่วงลูกทั้งสองคนมาก น้องหมวยคนโตก็ไม่ได้เรียนหนังสือต่อ ส่วนน้องชัยก็ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เนื่องจากเดินไม่ได้ พูดไม่ได้ แต่พอฟังรู้เรื่อง หากไม่มีตนดูแลไม่รู้ว่าลูกจะมีชีวิตอยู่อย่างไร เพราะญาติพี่น้องก็ไม่มี จึงอยากขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญทั้งหลายบริจาคแพมเพอร์ส นม โจ้ก รถเข็น ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โดยสามารถบริจาคได้ที่บัญชี ออมทรัพย์ นางไพวรรณ์ ทะแก้ว ธ.กรุงไทย สาขาแสนตุ้ง หมายเลขบัญชี 245-0-22402-5 โทร. 087-1849053 นางไพวรรณ์ 063-6871530 นางกนกพร
ด้าน นางกนกพร กล่าวว่า ในฐานะ อสม.เห็นสภาพครอบครัวนางไพวรรณ์แล้วน่าสงสาร เด็กทั้งสองคนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และเด็กควรจะได้เรียนหนังสือต่อ ตนก็ช่วยเหลือได้แค่บอกกว่า เพราะเคยไปขอความช่วยเหลือที่หน่วยงานราชการมีขั้นตอนยุ่งยากโดยขอความช่วยเหลือไปกว่า 6 เดือนแล้ว ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูและ จึงขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ด้วย
