เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ นายสิขกพงษ์ กระแจะจันทร์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นายอาภรชัย อวยพรชัยรัตน์ หัวหน้า
เดินทางไปพบพระภิกษุเย็นหมง เจ้าอาวาสวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ หมู่ 7 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบไม้กะยาเลยนานาชนิดที่เก็บเอาไว้ภายในวัดเป็นจำนวนมาก ตามการร้องเรียนของประชาชน ซึ่งพระภิกษุ เย็นหมง ได้อำนวยความสะดวกด้วยการนำพาคณะเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมนำเอกสารการครอบครองไม้ท่อน และไม้แปรรูป ที่สั่งซื้อมามาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่าภายในวัดอาจมีไม้ท่อนและไม้แปรรูปเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นการนำเข้าภายในประเทศหรือนำเข้าจากนอกประเทศ หรือมีไม้สวมในลักษณะการอำพรางเข้ามา ซึ่งพื้นที่บริเวณของวัดเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. และอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าของอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ สังกัดกรมอุทยานฯ และกรมอุทยานฯ ได้ประกาศให้วัดเมตตาธรรมโพธิญาณเป็นพุทธอุทยานด้วย ซึ่งทางวัดแจ้งให้ทราบว่าพื้นที่ของวัดมีอยู่ทั้งหมดกว่า 200 ไร่ จากการตรวจสอบเอกสารมีการอนุญาตให้มีสิ่งปลูกสร้างจำนวน 17 รายการ แต่จากการตรวจสอบพื้นที่พบมีสิ่งปลูกสร้างเกิน 17 รายการ
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญที่สุดเราพบทั้งไม้ท่อนและไม้แปรรูปหลายชนิด ลักษณะเป็นการอำพรางทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ผ่านเข้ามาทางด้านด่านชายแดน อ.แม่สอด รวมทั้งนำเข้าจากต่างประเทศด้วย ซึ่งมีเป็นจำนวนหลายร้อยแผ่นและหลายร้อยท่อนที่เก็บเอาไว้ภายในโกดัง แต่ยังตรวจสอบโกดังไม่ครบถ้วนทั้งหมด สำหรับการตรวจสอบก็ได้รับความเมตตาจากเจ้าอาวาส ช่วยนำพาตรวจสอบและนำเอกสารที่มีอยู่ทั้งหมดมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมกับชี้แจงการได้มาและขั้นตอนนำเข้าของไม้อย่างละเอียด
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า เมื่อตรวจสอบเอกสารที่นำมาแสดง รวมทั้งตรวจสอบสภาพของไม้แปรรูปและไม้ท่อนที่อ้างว่านำมาทำเฟอร์นิเจอร์ แต่การทำเฟอร์นิเจอร์จะต้องมีทุกอย่างพร้อม เช่น โต๊ะ ขา และพื้นของเฟอร์นิเจอร์ จะต้องถูกขัดและทาด้วยน้ำยาแล็คเกอร์อย่างถูกต้อง แต่ไม้ทั้งหมดมีลักษณะเปิดหนังหมูของไม้มา ยังไม่มีการตกแต่ง ทาสี หรือเคลือบเงามาแต่อย่างใด และจากการประเมินมูลค่าของไม้ทั้งหมด เชื่อว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับไม้ที่พบ เจ้าอาวาสแจ้งว่าเป็นไม้กระบาก ไม้ตะเคียน และบางชนิดเป็นไม้ที่นำเข้าจากต่างประเทศ
หัวหน้าชุดพญาเสือ กล่าวว่า สำหรับไม้ทั้งหมดนั้นผ่านการแปรรูปจากโรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่วันนี้จะต้องอายัดไม้เอาไว้ตรวจสอบทั้งหมด เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาเพียงแค่ 2 วัน แต่เมื่อเข้ามาตรวจสอบโดยละเอียดพบว่าจำนวนของไม้มีอยู่เป็นจำนวนมาก อาจต้องใช้เวลาตรวจสอบความถูกต้องประมาณ 1 อาทิตย์ หรือมากกว่านั้น โดยจะทำการตรวจสอบไม้แปรรูปและไม้ท่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งตั้งแต่เกิดมาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะพบไม้ขนาดใหญ่แบบนี้ และไม่คิดว่าไม้ที่อยู่ภายในวัดจะมีมากมายขนาดนี้
ด้านพระภิกษุเย็นหมง กล่าวว่า อาตมาพร้อมที่จะให้คณะเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบไม้อย่างละเอียดโดยที่ไม่มีความหนักใจ สำหรับไม้ที่ได้มานั้นก็นำมาจากทาง อ.แม่สอด จ.ตาก และจ.หนองคาย ซึ่งได้มาอย่างถูกต้อง และไม้ที่มีอยู่นั้น ทางวัดได้ซื้อสะสมเอาไว้มานานหลายสิบปี หวังสร้างและพัฒนาวัดเพื่อทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น
