เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 8 ธันวาคม 2560 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงพระกรุณาให้พันเอกเสกศิลป์ แสงศร หัวหน้ากองบังคับการ กองงานส่วนพระองค์ 904 วังศุโขทัย เป็นผู้แทนพระองค์ เชิญถุงยังชีพพระราชทาน มอบให้แก่ราษฎรประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.เขาชัยสน ณ ศาลาประชาคม อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง โดยมีนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน ร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ผู้ประสบอุทกภัยเข้ารับมอบถุงยังชีพพระราชทานครั้งนี้ เป็นราษฎร ในต.จองถนน 7 หมู่บ้าน, ต.หานโพธิ์ 3 หมู่บ้าน และ ต.เขาชัยสน 1 หมู่บ้าน รวมทั้งหมด 2,000 ชุด

นายอดิศักดิ์ พันธ์คีรี นายอำเภอเขาชัยสน กล่าวว่า พื้นที่อ.เขาชัยสน ประสบอุทกภัยตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2560 มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 5 ตำบล 58 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 16,120 ครอบครัว 42,100 คน โดยอพยพราษฎรไปอยู่ในที่ปลอดภัย จำนวน 44 ครอบครัว รวม 127 คน

ขณะนี้ยังมีพื้นที่ประสบภัย 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน คือ ต.จองถนน 7 หมู่บ้าน และ ต.หานโพธิ์ จำนวน 3 หมู่บ้าน โดยหมู่บ้านดังกล่าวอยู่ในที่ลุ่มริมทะเลสาบสงขลา ขณะนี้ระดับน้ำยังคงท่วมสูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากมีน้ำทะเลหนุนด้วย ซึ่งทางอำเภอ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด ได้ให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง คาดว่า พื้นที่ดังกล่าว สถานการณ์จะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพัทลุง ขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนขนุน อ.เมือง อ.บางแก้ว อ.เขาชัยสน และ อ.ปากพะยูน รวมกว่า 60 หมู่บ้าน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวรับมวลน้ำจากพื้นที่ต้นน้ำริมเทือกเขาบรรทัด และพื้นที่กลางน้ำ ประกอบกับอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนทำให้การระบายน้ำทำได้ยาก ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก บางพื้นที่ต้องอพยพประชาชนไปพักอาศัยที่จุดอพยพชั่วคราว ขณะที่ทางจังหวัดยังคงติดตามสภาวะอากาศ และเฝ้าระวังพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง

บรรยายภาพ – สภาพน้ำท่วมพื้นที่หมู่บ้านชายคลอง ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง รายงานว่า จากสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2560 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบในพื้นที่ซึ่งได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและประกาศเขตการให้ความ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้วทั้งสิ้น 11 อำเภอ 65 ตำบล 651 หมู่บ้าน 19 ชุมชน ราษฎรได้รับ ความเดือดร้อน จำนวน 135,282 ครัวเรือน 405,560 คน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย

ส่วนสิ่งสาธารณประโยชน์ข้อมูลความเสียหายเบื้องต้น ถนน 262 สาย คอสะพาน 14 แห่ง ฝาย 7 แห่งและอยู่ระหว่างการสำรวจ และรวบรวมข้อมูลความเสียหาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน