ร้อยเอ็ดแถลงจัดเทศกาลวันข้าวหอมมะลิโลก ครั้งที่ 18

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ณ บริเวณศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด จัดงานแถลงข่าวการเทศกาลข้าวหอมมะลิโลกครั้งที่ 18 ของจังหวัดร้อยเอ็ด ขึ้น โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในการแถลงข่าว พร้อมด้วย นายทรงพันธ์ จันทร์สว่าง เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด นายประเกียรติ นาสิมมา ที่ปรึกษาสมาคมข้าวหอมมะลิสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ทุ่งกุลาร้องไห้ และ ดร.รณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้าประชาชน

นายวันชัยกล่าวว่า งานเทศกาลข้าวหอมมะลิโลกจังหวัดร้อยเอ็ด จัดมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2540 จนถึงปัจจุบันจัดเป็นครั้งที่ 18 จะจัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่จัดมา โดยกำหนดการจัดงาน ระหว่างวันศุกร์ที่ 15 ถึง วันอาทิตย์ ที่ 17 ธันวาคม ณ ลานสาเกตนคร สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และที่โรงแรมเพชรรัตน์การ์เด้นท์ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งอยู่ภายใต้กิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายด้านการผลิตและการตลาดในสถาบันเกษตรกร

มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิของกลุ่มจังหวัด ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ นำเสนอเทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดี ควบคู่วิถีภูมิปัญญาชาวบ้าน สร้างเครือข่ายการผลิตข้าวอินทรีย์ของกลุ่มจังหวัด ส่งเสริมการจำหน่ายข้าวหอมมะลิและผลิตภัณฑ์จากข้าวหอมมะลิของกลุ่มจังหวัด เชื่อมโยงช่องทางการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เพื่อผลักดันให้เกิดเขตเศรษฐกิจข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืนและเพื่อพัฒนาและสร้างเครือข่ายการผลิตข้าวอินทรีย์ของกลุ่มจังหวัดร้อย แก่น สาร สินธุ์ และจังหวัดในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งกิจกรรมในปีนี้จะมีการแบ่งเป็น 2 ส่วน

ในส่วนของนิทรรศการ ซึ่งมีการจัดแสดงทุกวันมีนิทรรศการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทยนิทรรศการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มผลผลิตการเพิ่มคุณภาพมาตรฐาน และนวัตกรรมเพื่อการแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และมีนิทรรศการที่น่าสนใจอีกมากมายส่วนที่ 2 เป็นการเสวนาวิชาการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการ ส่งออก การแปรรูป และการสาธิตฝึกอบรมระยะสั้น เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถมาเรียนรู้ มาอบรมภายในงานได้ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอต่อพี่น้องเกษตรกร หรือผู้ที่สนใจอยากทำเกษตรที่ไปเที่ยว ชมงาน ให้ได้รับทราบ ถึงแนวทางการทำเกษตรแบบที่เรียกว่า Smart Farmer และYoung Smart Farmer โดยมีการนำเสนอวิธีการที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศหรือเครื่องจักรกลสมัยใหม่ในการใช้แอพพลิเคชั่นบนมือถือ มาช่วยในการทำการเกษตรซึ่งเป็นทางเลือกทางรอดสำหรับเกษตรกรชาวนาไทยอีกด้วย