วันที่ 13 ธ.ค. พ.ต.ต.ชาญชัย สงศิริ สว.(สอบสวน) สภ.เสนา จ.พระนครสรีอยุธยา รับแจ้งนางนิภา จูงใจ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านขายของชำ เลขที่ 35/5 หมู่ 5 ต.เจ้าเจ็ด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าถูกคนร้ายเข้ามางัดประตูจนเสียหายแต่เข้าไปมาได้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเจ้าขจองร้านได้ขึ้นป้ายข้อความไว้ที่หน้าร้าน ใจความว่า “เรียนคุณโจรที่รัก ตอนนี่ก็งัดร้านเรามา 4 ครั้งแล้ว ทางเราไม่มีอะไรจะให้คุณโจรแล้ว ขอร้องคุณโจรอย่างัดร้านนี้อีกเลย ขอให้เราทำมาหากินบ้าง ใจเขาใจเรา งัดบ่อยๆ จะหาเงินที่ไหนมาให้หนักหนา จะเป็นพระคุณยิ่ง หากคุณโจรจะไม่มางัดร้านนี้อีก ขอขอบพระคุณจากเจ้าของร้าน”
ซึ่งนางนิภา เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 11 ธ.ค. พี่สาวของตนได้มาเปิดร้านตามปกติ เมื่อมาถึงร้านพบว่ากุญแจและสายยูที่ล็อคประตูข้างร้านนั้นเสียหาย จึงได้โทรมาสอบถามตนว่าใครเป็นคนล็อคร้าน ทำไมร้านถึงมีลอยงัด เมื่อเข้าไปตรวจสอบในร้านก็ไม่พบว่าทรัพย์สินนั้นสูญหายแต่อย่างใด คาดว่าคนร้ายพยายามที่จะงัดประตูแต่ไม่สำเร็จ เพราะทางร้านได้เปลี่ยนแม่กุญแจมาใช้อย่างดี ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่มีคนร้ายเข้ามางัดร้าน
โดยครั้งแรกคนร้ายได้เข้ามาเอาเงินสดในตู้เก็บเงินไปซึ่งเป็นธนบัตรต่างๆ รวม 25,000 บาท แล้วปิดล็อคตู้ไว้ตามเดิม โดยครั้งนั้นกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน ครั้งที่ 2 คนร้ายใช้กุญแจผีหรือสะเดาะกุญแจ เข้ามาขโมยทรัพย์สินไปประมาณ 30,000 บาท ครั้งที่ 3 คนร้ายได้แอบเข้างัดงัดหน้าต่างที่ของร้าน จากนั้นได้เข้าไปรื้อค้นตู้ใส่เงินที่เอาไว้ทอนลูกค้า ได้เงินสดไป 8,000 บาท โดยครั้งนี้ตนได้ฝันว่าร้านของตนถูกขโมยขึ้น ต่อมาครั้งล่าสุดคนร้านได้พยายามที่จะงัดแม่กุญแจและสายยูที่ประตูข้างร้าน แต่ครั้งนี้งัดไม่สำเร็จ เพราะทางร้านได้เปลี่ยนแม่กุญแจที่สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศและได้เปลี่ยนเหล็กดัดเพิ่มกล้องวรจรปิด เพื่อเป็นการป้องกันคนร้ายที่จะเข้ามาขโมยอีกด้วย
ด้านพ.ต.ต.ชาญชัย กล่าวว่า เบื้องต้นได้เพิ่มกำลังสายตรวจให้หมั่นมาตรวจที่ร้านในช่วงเวลากลางคืนบ่อยครั้งขึ้น และได้แจ้งเจ้าหน้าที่พิสูตรหลักฐานลอยนิ้วมือแล้ว รวมทั้งการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้ ฝากเตือนที่น้องประชาชนหากพบเห็นคนร้ายตามในวงจรปิดหรือมีแบะแสคนร้ายช่วยแจ้งเข้ามาที่ สภ.เสนา โทร 035-201683
