จับแล้วสาวแบงก์ ยักยอกเงินลูกค้าร่วม 2 ล้าน เอาไปลุงทุน อ้างทำคนเดียว ยื่นหลักทรัพย์ 4 ล้านประกันตัว เหยื่อติดใจธนาคารไม่โปร่งใสให้ข้อมูล

จากกรณีมีผู้เสียหายหลายราย ที่ฝากเงินในธนาคารแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ จ.ชัยภูมิ แต่กลับพบว่า เงินในบัญชีสูญหายไป รวมแล้วกว่า 10 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 25 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถาม นางนราทิพย์ เจียมชัยภูมิ อายุ 52 ปี ชาว ต.ห้วยไร่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ หนึ่งในผู้เสียหายที่มีเงินสูญหาย 1,186,568 บาท โดยเป็นเงินจากน้ำพักน้ำแรงและเป็นเงินทั้งหมดในชีวิตที่เก็บมาได้ เป็นเงินที่สามีไปทำงานอยู่ที่ต่างประเทศและเก็บสะสมส่งมาให้ครอบครัว และได้ปรับสมุดบัญชีทุกเดือน ล่าสุดพบความผิดปกติในวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา มีเงินกว่า 1 ล้านบาทหายไป ถึงได้เข้าติดต่อกับธนาคารดังกล่าวที่ อ.แก้งคร้อ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบโดยธนาคารสาขาแก้งคร้อ ให้ไปติดต่อที่ธนาคารในตัวชัยภูมิ เพื่อรับฟังข้อมูลและรายละเอียด ก่อนที่ตนจะไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่ นายนัฐวุฒิ ลูกชาย กล่าวว่า ในส่วนกรณีที่เกิดขึ้นนี้มีข้อสงสัยหลายอย่างที่ธนาคารปกปิดข้อมูลและไม่โปร่งใสในการให้ข้อมูลกับลูกค้า เช่นไม่แจ้งสเตทเมนต์ตามที่ตนขอ และไม่ชี้แจงว่าเงินในบัญชีหายไปนั้นผู้ใดเป็นคนกระทำหรือรายละเอียดต่างๆ โดยตนและครอบครัวก็อยากจะทราบว่าเงินหายไปได้อย่างไร เป็นบุคคลที่ธนาคาร หรือทำงานอยู่ในธนาคารเป็นผู้กระทำหรือไม่ ในส่วนนี้ขอให้ธนาคารช่วยชี้แจงให้ครอบครัวและตนได้ทราบอย่างโปร่งใสด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารได้ติดต่อผู้เสียหายว่าจะคืนเงินให้เร็วที่สุดภายในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ แต่เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ ได้มีการติดต่อเข้ามาให้ผู้เสียหายเดินทางเข้าไปที่ธนาคารสาขาชัยภูมิ เพื่อพูดคุยและฟังคำชี้แจง โดยจะมีการมอบสเตทเมนต์ให้และคืนเงินที่หายไปพร้อมดอกเบี้ยอีกด้วย

ขณะที่ทางคดี ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ ทราบว่า มิจฉาชีพรายนี้ล้วงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าธนาคาร นำไปผูกเข้ากับบัตรเครดิต-บัตรเดบิต แล้วแอบโอนถอนเงินในบัญชีธนาคารฯ ผ่านโทรศัพท์มือถือไปยังอีกธนาคารฯ ก่อนนำเงินไปลงทุนต่างๆ โดยมีประชาชนหลายรายถูกแอบถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารจำนวนหลายครั้ง

จากนั้นตำรวจก็ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขอศาลจังหวัดชัยภูมิ ออกหมายจับ เลขที่ 152/2564 ลงวันที่ 20 ต.ค.64 เพื่อจับกุม น.ส.ปัทมา อายุ 28 ปี พนักงานธนาคาร ในข้อหา ลักทรัพย์นายจ้าง และนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ต่อมาตำรวจทราบว่า น.ส.ปัทมา ได้เข้ารักษาตัวที่ ร.พ.ชัยภูมิราม หลังประสบอุบัติเหตุรถเสียหลักตกลงไปข้างชนกับต้นไม้ บริเวณบ้านนาเสียว ต.นาเสียว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงเข้าควบคุมตัวไว้

โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าได้กระทำจริง และกระทำเพียงคนเดียว จากนั้นตำรวจได้ทำสำนวนประกอบคำรับสารภาพพร้อมส่งฟ้องศาล ก่อนที่ผู้ต้องหาจะยื่นหลักทรัพย์มูลค่า 4 ล้านบาท ประกันตัวออกไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน