เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “ศุภชัย ทองสุขนอก” เผยแพร่คลิปพร้อมโพสต์ข้อความ “มาบ้านโป่งเจอแต่นักเลง เก่งจริงใช้มีดทำไมผิดแท้ๆ” ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คนขับตู้โดยสาร 2 คน เดินลงไปเจรจากันหลังจากที่เกิดการขับรถปาดหน้า แต่ไม่ทันได้คุย คนขับรถคันหน้าได้ง้างหมัดขวาต่อย ต่อด้วยชักมีดพับเข้าแทง แต่คู่กรณีสามารถหลบไปได้ สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถตู้เป็นอย่างมาก
เมื่อตรวจสอบเบื้อต้นทำให้ทราบว่า คนขับรถตู้คู่กรณีเป็นคนขับท่ารถสายห้วยกระบอก – บ้านโป่ง – หมอชิต ซึ่งประจำอยู่ท่ารถตู้เฉลิมทองคำ เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

ต่อมา พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทรปรีชา ผกก.สภ.บ้านโป่ง ร.อ.ประดิษฐ์ บัวแพง หน.ชุด รส.อ.บ้านโป่ง นายมนัสชัย ตั้งวิทย์โมไนย นายช่างตรวจสภาพรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดราชบุรี สาขาบ้านโป่ง พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ยังท่ารถตู้เฉลิมทองคำ ซึ่งเป็นท่ารถตู้โดยสารสาธารณะ รับส่งผู้โดยสารจาก อ.บ้านโป่ง ปลายทาง ปิ่นเกล้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และหมอชิต ในกทม. จากการสอบถามทราบว่า คนขับที่อยู่ในคลิป ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกต่อยและถูกไล่แทง ชื่อ นายจักรพันธ์ จันทร์เรือง อายุ 35 ปี ขับรถตู้ประจำท่ารถเมฆา สาย ม.2 (จ) 82 – 15 (ช) หมายเลขทะเบียน 15 – 8936 กทม.


นายจักรพันธ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ขณะที่ตนกำลังขับรถเพื่อไปส่งผู้โดยสารจำนวน 12 คน ที่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางถนนทรงพลผ่านแยกหัวโป่ง ก็มีรถตู้โดยสาร กาญจนบุรี – หมอชิต ขับรถเข้ามาเบียดและตัดหน้ารถของตนอย่างกระชั้นชิด ตนจึงตัดสินใจจอดรถเข้าข้างทาง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และลงจากรถเพื่อจะพูดคุยเจรจากับคู่กรณี แต่จู่ๆ คู่กรณีก็เดินตรงปรี่เข้ามาพร้อมกับชกหน้า และชักมีดพับเข้ามาจะทำร้าย ตนเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหลบหนี แต่คู่กรณีก็ไม่ยอมหยุด กลับวิ่งไล่ตามมา เป็นระยะทางกว่า 100 เมตร และชกเข้าที่หางตาข้างซ้ายของตน จากนั้นก็รีบหนีขึ้นรถตู้แล้วขับหลบหนีไป ตนจึงได้ขับรถส่งผู้โดยสารไปยังท่ารถหมอชิต แต่พอกลับมาท่ารถเฉลิมทองคำ ก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจรอสอบถามข้อมูล สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ตนยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใด เพราะขณะที่ตนขับรถออกมาจาก อ.บ้านโป่ง ตนก็ขับเลนซ้ายมาตลอด ซึ่งหลังจากนี้ ตนก็จะเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านโป่งไว้เป็นหลักฐาน


ส่วนนายมนัสชัย ตั้งวิทย์โมไนย นายช่างตรวจสภาพรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดราชบุรี สาขาบ้านโป่ง เปิดเผยว่า ในขณะนี้ ทางสำนักงานขนส่งฯ ได้เรียกคนขับรถตู้โดยสารทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อมาให้ปากคำอย่างละเอียด เนื่องจากมีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102 วรรค 2 ที่ระบุว่า “ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็น ผู้ประจำรถต้องไม่แสดงกิริยาหรือใช้ถ้อยคำเป็นการเสียดสี ดูหมิ่น ก้าวร้าว รังแก รบกวน หรือหยาบหยามผู้หนึ่งผู้ใด หรือแสดงกิริยาวาจาหรือส่งเสียง ด้วยประการหนึ่งประการใดในลักษณะไม่สมควรหรือไม่สุภาพ” โดยในเบื้องต้นได้ทำการปรับทั้งคู่ เป็นเงิน จำนวน 5,000 บาท ส่วนคนขับรถตู้คู่กรณีที่ทำร้ายร่างกาย จะดำเนินการพิจารณาพักใบอนุญาตต่อไป


ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทรปรีชา ผกก.สภ.บ้านโป่ง เปิดเผยว่า จากคลิปภาพเหตุการณ์ พบว่านายจักรพันธ์ได้ถูกคู่กรณีทำร้ายร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการเรียกคู่กรณีทั้ง 2 มาสอบปากคำอย่างละเอียดถึงสาเหตุการทะเลาะวิวาทอีกครั้ง และหากพบว่าคู่กรณีของนายจักรพันธ์ได้ใช้อาวุธมีดแทงจริง ก็จะแจ้งข้อหาพกพาอาวุธมีดในที่สาธารณะเพิ่มเติมต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน