วันที่ 12 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยเรื่องราวของ “น้องแป้ง” เด็กหญิงวัย 14 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (เทศบาลสงเคราะห์) จากนายอัศวิน คงเพ็ชรศักดิ์ ผู้อำนวยการสถานศึกษาฯ ถึงเรื่องราวความกตัญญูรู้คุณ และ เป็นเด็กที่ขยัน ใฝ่เรียนรู้จนได้ผลการเรียนในระดับสูง และยังเป็นตัวแทนจังหวัดราชบุรี แข่งขันคนเก่งโรงเรียนท้องถิ่น ระดับประเทศ ซึ่งสร้างความภูมิใจให้กับคณะครู เพื่อนนักเรียน รวมไปถึงผู้ปกครองของน้องแป้งด้วย แม้น้องแป้งจะมีสภาพฐานะความเป็นอยู่จากครอบครัวที่ปานกลางยึดอาชีพขายไส้กรอกย่างริมทางเท้าเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพและครอบครัว

เดินทางติดตามเรื่องราวชีวิตของ “น้องแป้ง” ด.ญ.ปิยวรรณ ชาวใต้ อายุ 14 ปี อาศัยอยู่กับนายสัมผัส ธุมา อายุ 60 ปี ชาวอ.ประทุมรัช จ.ร้อยเอ็ด และ นางมอญ ธุมา วัย 61 ปี ชาวอ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นตากับยายเป็นผู้ดูแลอยู่ ในบ้านเลขที่ 270 ซอยปิฏฐปาตี ถนนมนตรีสุริยวงศ์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี หลังจากที่พ่อและแม่ของน้องแป้งแยกทางกันตั้งแต่น้องแป้งคลอดกำเนิดได้เพียง 7 วัน ทำให้น้องแป้งเรียกตากับยายว่า “พ่อและแม่” มาตลอดจนถึงปัจจุบัน รวมเป็นระยะเวลา 14 ปี

โดยน้องแป้งออกเข็นรถขายไส้กรอกย่างจากที่บ้านตั้งแต่เวลา 15.00 น. และเข็นขายเลื่อยไป จนไปถึงที่บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมัน ปตท.บ้านไร่ หรือที่ปากซอยมนตรีสุริยวงศ์ 6 ระยะทางไม่ไกลจากบ้านมากนัก น้องแป้งจะทำหน้าที่เข็นรถส่วนยายมอญจะเดินตามและคอยสังเกตไส้กรอกที่ย่างอยู่บนเตาไฟเพื่อไม่ให้เกิดการไหม้ มีลูกค้าขาประจำจะมาคอยรอซื้อไปจนถึงจุดหมายปลายทาง เมื่อมาถึงที่บริเวณริมฟุตบาทที่อยู่มุมทางออกของสถานีบริการน้ำมัน น้องแป้งก็จะเข็นรถไปจอดและเตรียมย่างไส้กรอกเพื่อรอลูกค้ามาอุดหนุน ปกติก็จะขายหมดก่อนเวลา 20.00 น. เนื่องจากไส้กรอกของน้องแป้งจะมี 2 รสชาติ แบบเปรี้ยวกับไม่เปรี้ยว แล้วแต่ความชอบของลูกค้า จำหน่ายก็ไม่แพง 8 ลูก 10 บาท มีผัก พริก และขิงแถมเป็นเครื่องแนม

จากการสังเกตและพูดคุยกับ “น้องแป้ง” พบว่าเป็นเด็กยิ้มแย้มอารมดี บางเวลาจะค่อนข้างเขินอายเป็นที่รักของบรรดาเพื่อนๆในวัยเดียวกัน โดยแต่ละวันน้องแป้งจะเป็นคนที่ตื่นเช้าเพื่อมาล้างภาชนะต่างๆที่อยู่บนรถเข็นที่ใช้สำหรับไปเข็นขายไส้กรอกให้กับยายและตาเพื่อเตรียมที่จะออกขายช่วงเย็นเป็นประจำทุกวันจนเป็นกิจวัตรประจำวันมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต จากนั้นจะเตรียมหุงข้าวก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวเดินทางไปเรียนหนังสือตามปกติ น้องแป้งจะใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในทุกๆวัน เมื่อมีเวลาว่างจะมานั่งอ่านหนังสือ เตรียมทบทวนวิชาเรียน อีกทั้งยังได้ร่วมกิจกรรมของโรงเรียนตามที่ตัวเองถนัด นอกจากนี้ยังได้รับการไว้วางใจจากโรงเรียนให้เป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารโรงเรียนที่มีหน้าที่จดบันทึกรับฝากเงินของนักเรียนผู้มาใช้บริการ ส่วนหลังเลิกเรียนจะกลับมาทำหน้าที่ภายในบ้านด้วยการปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดบ้าน หุงข้าว และช่วยทำไส้กรอกย่าง รวมไปถึงการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ บนรถสำหรับให้ยายเข็นรถไปขายไส้กรอกย่าง และบางวันถ้าไม่มีการบ้านน้องแป้งก็จะตามออกไปช่วยยายนั่งยายของด้วย

นายอัศวิน คงเพ็ชรศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า ด.ญ.ปิยวรรณ เป็นเด็กที่ร่าเริง ตั้งใจเรียนอยู่ที่โรงเรียนก็จะทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ค่อนข้างที่จะมาก อย่างเช่นธนาคารโรงเรียนเขาก็จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลเรื่องการเงิน เพราะทางโรงเรียนจะต้องคัดเลือกเด็กที่มีความรับผิดชอบ ในเรื่องของภาระงานเขาจะต้องทำทุกวันมีความมานะอดทนมีความระเอียดรอบคอบ มีความเป็นกันเองบุคลิกล่าเริงแจ่มใส รวมไปถึงในเรื่องของกิจกรรมทางวิชาการ นอกจากนี้น้องแป้งยังใช้เวลาหลังจากที่ทำกิจกรรมของทางโรงเรียนแล้วมาอ่านหนังสือ ล่าสุดได้เป็นตัวแทนของจังหวัดราชบุรีเข้าแข่งขันคนเก่งของท้องถิ่นในระดับประเทศ โดยโรงเรียนยังได้ดูในเรื่องของทุนการศึกษาเพราะว่าทางครอบครัวค่อนข้างที่จะไม่ได้มีฐานะที่สูงเท่าไหร่อยู่ในฐานะปานกลาง ทางโรงเรียนก็จะให้ทุนการศึกษารวมถึงในเรื่องของอาชีพเสริมต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการที่จะมีความรู้ไปประกอบอาชีพหรือว่าเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไปทางโรงเรียนก็จะเสริมทักษะให้มีความรู้ความชำนาญต่อไป

ด้านนางมอญ ธุมา วัย 61 ปี ยายของน้องแป้ง เล่าให้ฟังว่า ทุกวันหลังจากกลับจากโรงเรียนจะมาช่วยงานที่บ้านและทำการบ้าน บางวันการบ้านไม่เยอะก็จะออกมาช่วยตนเองขายไส้กรอก ภูมิใจที่น้องแป้งเป็นเด็กที่ขยันกตัญญูว่าง่ายไม่เคยทำให้เสียใจ อีกทั้งยังมาเคยออกไปเล่นหรือเที่ยวที่ไหนเหมือนเด็กๆทั่วไปที่มักจะออกไปเที่ยวเตร่ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งห้างหรือไปมั่วสุม น้องแป้งไม่คบเพื่อนเที่ยวจะมีก็ไปแต่เพื่อนที่มีงานทำการบ้านหรือวิชาเรียน ทุกครั้งที่ไปน้องแป้งจะมาบอกและก็กลับตรงเวลา เมื่อตายายไม่สบายน้องแป้งจะมาคอยดูแลคอยเฝ้าทั้งที่บ้านและโรงพยาบาล เพราะน้องแป้งจะเป็นห่วงตากับยายมาก อีกทั้งตนเองรักเหมือนลูก ส่วนความฝันของตนเคยบอกน้องแป้งว่า ตากับยายอยากให้ตั้งใจเรียนขยันจะได้เรียนจบสูงๆ เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ส่วนตัวเขาเองอยากเป็นทหาร ก็เลยบอกเขาไปว่า เป็นทหารอ่อนแอไม่ได้เป็นทหารต้องฝึกหนัก ตากับยายอยากให้เป็นพยาบาล เขากลัวเลือดไม่เอาไม่งั้นก็เป็นครู แต่น้องแป้งก็คิดอยู่นานและก็บอกยืนยันว่าอยากเป็นทหาร

วันเด็กปีนี้ นางมอญ กล่าวว่า “อยากบอกน้องแป้งว่าให้เป็นเด็กดีอย่างนี้ตลอดไป ให้ตั้งใจเรียนมีอะไรต้องการอะไรก็ขอให้บอกตากับยาย เพราะรักเหมือนลูกตากับยายเลี้ยงและอุ้มชูมาตั้งแต่เกิด ไม่หวังสิ่งอื่นใดทดแทนนอกจากเป็นคนดี”

ด.ญ.ปิยวรรณ เปิดใจเล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองให้ฟังว่า ตั้งแต่จำความได้ก็อยู่กับตากับยายมาจนถึงทุกวันนี้เข้า 14 ปีแล้ว ยายจะคอยเลี้ยงดูทะนุถนอมตนเองมาด้วยความรักเหมือนลูก ยายเคยเล่าให้ฟังว่าต้องหยุดขายของมาเพื่อเลี้ยงดูตนเพราะตนเองยังเล็กมากอีกทั้งฐานะก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคนอื่น ตาต้องทำงานหนักเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดุครอบครัวรวมถึงตนเองด้วย ส่วนพ่อกับแม่แท้ๆ ท่านก็ไม่ได้ทิ้งหนูไปไหนแต่ด้วยท่านทั้งสองแยกทางกัน พ่อไปทำงานต่างประเทศกลับมาไทยก็จะแวะมาหาบ้าง ส่วนแม่ไปมีครอบครัวใหม่แล้วแวะมาเที่ยวหาบ่อยพาไปทานข้าวบ้างไปดูหนัง ซึ่งตนไม่ได้โกรธอะไร ทุกวันนี้อยู่กับตากับยายก็รักและมีความสุข ตนเรียกท่านทั้งสองว่า “พ่อกับแม่” เพราะรักและห่วงมาก ส่วนการเรียนหนังสือ ตนเองมีความตั้งใจและพยายามที่จะเรียนหนังสือให้ออกมาดีที่สุดได้ผลการเรียนในระดับ 3.5 ขึ้น และได้ร่วมกิจกรรมของโรงเรียนเป็นพนักงานธนาคารโรงเรียนและเป็นตัวแทนของโรงเรียนเข้าแข่งขันคนเก่งของโรงเรียนในท้องถิ่นและกำลังจะเข้าแข่งขันในระดับประเทศในวิชาภาษาไทยด้วย

น้องแป้ง เล่าต่อว่า ตนเองไม่เคยได้ออกไปเที่ยวเลย หลังจากเลิกเรียนก็กลับบ้านมาทำงานที่บ้านช่วยป้าที่บ้านและออกมาช่วยยายขายของ เวลาจะออกไปไหนอย่างเช่นถ้าไปทำงานที่บ้านเพื่อก็จะขออนุญาตตากับยายทุกครั้งหากท่านไม่ให้ไปตนเองก็จะไม่ไป แต่ถ้าท่านให้ไปก็จะบอกว่าเดี๋ยวหนูกลับมาเร็วนะ เพราะไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง ส่วนอนาคตตนเองอยากเป็นทหาร เพราะว่าตนเองชอบในเรื่องของเครื่องแบบ ไม่อยากให้ตายายลำบากอยากมียศสูงๆ อยากมีเงินเดือนเยอะๆ อยากดูแลยายกับตา เพราะหนูรักยายกับตา หนูอยากบอกว่า “หนูจะไม่ดื้อไม่ซน จะช่วยงานทุกอย่าง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน