วันที่ 15 ม.ค. ที่ไร่ระพี มิลเบอร์รี่ พื้นที่ ม.18 ต.บ้านเสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี สวนมัลเบอร์รี่ รูปแบบของไร่นาสวนผสม บนเนื้อที่ 20 ไร่เศษ แต่ละวันมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ทั้งๆไทยและต่างชาติ จากพื้นที่ต่างๆ เดินทางเข้าไปเที่ยวอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยส่วนใหญ่ จะเดินทางมาเป็นครอบครัวและคณะ เพื่อเยี่ยมชมสวน นั่งห้อยขานั่งชิวดื่มน้ำมัลเบอร์รี่ สดจากสวน ฟังเสียงน้ำจากฝ่ายน้ำล้น ซึ่งอยู่ติดกับขนำรับรองของไร่ดังกล่าว ท่ามกลางธรรมชาติ ใต้ร่มไม้นานาชนิด

น.ส.ระพีพรรณ จันทบูรณ์ อายุ 31 ปี เจ้าของสวนดังกล่าว เปิดเผยว่า เดิมตนเองทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ขณะที่ครอบครัวมีอาชีพทำสวนยางพาราอยู่ที่สวน แต่เนื่องจากที่ผ่านมาราคายางพาราตกต่ำ จนกระทั่งเมื่อประมาณ 8 เดือนที่ผ่านมา พ่อแม่ตัดสินใจโค่นยางพาราทิ้ง และปรับพื้นที่ใหม่ทั้งหมด หันมาปลูกปาล์มและทุเรียนแทน การปลูกปาล์มและทุเรียนกว่าจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ก็ต้องใช้เวลาหลายปี

จึงมีแนวคิดว่าระหว่างนี้ จะหาอะไรมาปลูกเสริมในพื้นที่ๆ ระหว่างสวนปาล์มและทุเรียน ที่ยังว่างอยู่ ประกอบกับตน มีนิสัยชอบท่องเที่ยว ได้มีโอกาสไปท่องเที่ยว ตามสถานที่ต่างๆ มาหลายแห่ง จนมีโอกาศได้ไปเที่ยวชมสวนมัลเบอร์รี่ ของป้าชบา ตั้งอยู่ซอยโกเตง ต.วัดประดู่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้สอบถามข้อมูลส่วนหนึ่งจากเจ้าของสวน และกลับศึกษาเพิ่มเติม พบว่าการปลูกมัลเบอร์รี่ หรือ ลูกหม่อน ไม่ได้ยากอะไรมากมาย สามารถปลูกแซมในสวนปาล์มหรือผลไม้ได้ อีกทั้งให้ผลผลิตเร็ว จึงตัดสินใจซื้อพันธ์มิลเบอร์รี่ จำนวน 500 ต้น มาปลูกแซมร่องปาล์ม บนพื้นที่ 5 ไร่ ขณะเดียวกันก็ได้ใช้พื้นที่ส่วนอื่นปลูกมะนาว ต้นเหรียง ผักสวนครัวปลอดสารพิษอื่นๆ และข้าวไร่ ไปด้วย

ปรากฏว่าหลังจากปลูกมัลเบอร์รี่ ไปได้เพียง 5 เดือน ได้รับผลอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ทุกต้นออกผลเต็มต้น ได้ผลเกินคาด ซึ่งการดูแลก็ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย เพราะจะได้รับน้ำและปุ๋ยจากที่ทางเราให้ต้นปาล์มทางอ้อม

สำหรับ”มัลเบอร์รี่ ” หรือ “ลูกหม่อน” เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่เมื่อสุกผลแล้วจะเป็นสีดำ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ลักษณะลำต้นตั้งตรง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบปลายใบแหลมยาว มีประโยชน์ต่อร่างกายเยอะมาก

สำหรับข้อดีของต้นมัลเบอร์รี คือ ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก แต่จะมีปัญหาบ้างเช่นเรื่องการเก็บเกี่ยว เพราะต่อครั้งจะให้ผลผลิตค่อนข้างเยอะ ต้องเก็บผลสุกออกจากต้นไม่เกิน 3 วัน เพราะถ้าเกินนี้จะเกิดเชื้อรา แต่ด้วยความที่ครอบครัวมีอาชีพเกษตรมาโดยตลอด จึงคิดวิธีไม่ให้มัลเบอร์รี่ ไม่ออกผลพร้อมกันทั้งหมด โดยใช้วิธีสมัยโบราณ คือการแกล้งให้ต้นตาย จัดโซนแถวที่ต้องการให้ออกลูกสลับกับการไม่ให้ออกลูก โซนที่ไม่ต้องการให้ออกผลก็จะปลิดใบทิ้งทั้งต้นไว้ก่อน ซึ่งถือเป็นวิธีที่ได้ผล แบะสามารถบริหารการเก็บผลผลิต ออกขายจำหน่ายได้ทุกวัน

ยอดจำหน่ายส่วนใหญ่ มาจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมสวนและพักผ่อน ซึ่งทางเราจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้าเยี่ยมชมสวนสามารถเก็บ มัลเบอร์รี่จากต้นทานเอง ฟรีแบบไม่อั้น พร้อมมีน้ำมัลเบอร์รี่เย็นๆ หวานช่ำ ให้ลองทานฟรี แต่หากต้องการนำกลับบ้านก็จะใส่แพ็คจำหน่ายราคา 35 ,60 ,100 บาท หากต้องการซื้อเป็น กก.ๆ ละ 200 บาท ส่วนลูกค้าที่สั่งผ่านออนไลน์หรือโทรมาสั่ง เราก็มีบริการส่ง อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

“มัลเบอร์รี่ แม้จะเป็นผลไม้ลูกเล็ก แต่อุดมไปด้วยคุณค่าและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ณ ห้วงเวลานี้คนไทยและชาวต่างชาติรู้จักมากขึ้น กลุ่มคนที่ดูแลสุขภาพก็ให้ความสนใจผลไม้ชนิดนี้มาก ฉะนั้นมัลเบอร์รี่จึงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าจับตามอง”

อย่างไรก็ตามสำหรับไร่มัลเบอร์รี่ “ระพี” นอกจากจะเปิดให้เที่ยวชมสวนฟรีแล้ว ยังมีบริการ ก้างเต็นท์ ริมธารน้ำ ให้พักค้างคืน สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนแบบสงบเพื่อดื่มด่ำธรรมชาติ โดยมีอาหาร ปิ้งย่าง รอบกองไฟ นั่งดูดาว สำหรับกลางคืน พร้อมอาหารเช้ารูปแบบอาหารท้องถิ่นของพื้นที่ ซึ่งเต็นท์ใหญ่สามารถ พักได้ 5-6 ท่าน เต็นท์เล็ก สามารถพักได้ 2-3 คน ตั้งแต่เปิดมามีนักท่องเที่ยวมาค้างคืนตลอดเช่นกันบางครั้งที่พักไม่เพียงพอด้วยซ้ำ ซึ่งอนาคตมีโครงจะขยายที่พัก และร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับรายได้แต่ละเดือน ตอนนี้ก็อยู่ระดับหลักแสนบาท หากใครสนใจสามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เส้นทางได้ที่เบอร์ 064-0297319

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน