วันที่ 17 ม.ค. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าประกาศมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบริเวณชายหาด ที่ห้าม-ทิ้งก้นบุรี่ ทิ้งขยะ ปล่อยน้ำเสีย หรือกิจกรรมที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ใน 24 ชายหาดทั่วประเทศ ได้แก่ ชายหาดบานชื่น อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ชายหาดแหลมเสด็จ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ชายหาดแสงจันทร์ อ.เมือง จ.ระยอง ชายหาดบางแสน อ.เมือง ชายหาดถ้ำพัง อ.เกาะสีชัง ชายหาดทรายแก้ว อ.สัตหีบ ชายหาดดงตาล พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชายหาดชะอํา อ.ชะอํา จ.เพชรบุรี ชายหาดหัวหิน ชายหาดเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชายหาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร ชายหาดบ่อผุด อ.เกาะสมุย ชายหาดโฉลกบ้านเก่า เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ชายหาดปลายทราย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ชายหาดชลาทัศน์ อ.เมือง จ.สงขลา ชายหาดวาสุกรี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ชายหาดป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ตชายหาดเกาะไข่นอก ชายหาดเกาะไข่ใน อ.เกาะยาว ชายหาดเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ชายหาดพระแอะ อ.เกาะลันตา ชายหาดคลองดาว ชายหาดคอกวาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ และชายหาดสําราญ อ.หาดสําราญ จ.ตรัง ซึ่งได้มีการประกาศลงในราชกิจนุเบกษาไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560

นายจตุพร กล่าวว่า โดยที่ผ่านมา ทช.ได้ลงพื้นที่ทำการซักซ้อม ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ท้องถิ่น และตำรวจ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะชายหาดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น หาดป่าตอง หัวหิน ชะอำ และพัทยา หากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเข้าใจ เพราะตลอด 90 วันที่ผ่านมา ได้มีการประชาสัมพันธ์ถึงมาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสูบบุหรี่ ไม่ได้บังคับห้ามสูบทุกพื้นที่ แต่ได้มีจัดโซนนิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการสูบบุหรี่ไว้ให้แล้ว

“โดยในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ ทช.จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง หากพบมีนักท่องเที่ยว ประชาชน ผู้ประกอบการกระทำความผิด จะเริ่มจากมาตรการตักเตือน ไปจนถึงดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งมีโทษหนักจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล”อธิบดีทช.กล่าวย้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน