เปิดใจเจ้าสาวโดนเทงานแต่ง ปล่อยโฮกลางพิธี แจ้งความแล้ว ด้านเจ้าบ่าวโต้ เหตุไม่ยกขันหมากไป จู่ๆ ขึ้นค่าสินสอด พร้อมสะบั้นสัมพันธ์รัก

วันที่ 25 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากโลกออนไลน์แชร์ภาพพร้อมข้อความ ที่เจ้าสาวรายหนึ่งถูกเจ้าบ่าวเทงานแต่ง ที่ ต.นามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบกับ น.ส.ธารารัตน์ หรือแพม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ก็ได้รับการเปิดเผยว่า เปิดเผยว่า ภาพและบุคคลในภาพดังกล่าว เป็นภาพงานแต่งงานของตนกับเจ้าบ่าวจริง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเป็นภาพบรรยากาศการแต่งงานที่ไม่มีเจ้าบ่าวมาร่วมพิธี ส่วนสาเหตุเนื่องจากทางเจ้าบ่าวสินสอดไม่ครบ ตามที่ตกลงกันไว้ในวันที่มาสู่ขอและหมั้นหมาย

น.ส.ธารารัตน์ กล่าวต่อว่า ตนกับเจ้าบ่าวเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน พบรักกันที่ กทม. ประมาณ 2 ปี ก่อนที่จะกลับบ้านทำพิธีหมั้นหมายตามประเพณี เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา สำหรับสินสอดที่ตกลงกันไว้คือ 149,999 บาท ทองหนัก 2 บาท โดยมอบให้ในวันหมั้นไว้ 1 บาท กำหนดจัดพิธีแต่งงานวันที่ 26 พ.ค.65 แต่ช่วงนั้นคนในครอบครัวติดโควิด จึงเลื่อนมาเป็นวันที่ 18 มิ.ย.65 ซึ่งก่อนถึงวันแต่งงาน ก็มีการตระเตรียมทุกอย่างได้พร้อมสรรพ ทั้งจัดห้องหอ สถานที่ ของชำร่วยมอบให้กับญาติผู้ใหญ่และแขกที่จะมาร่วมงาน รวมทั้งว่าจ้างวงดนตรี ล้มวัว โต๊ะจีน รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 160,000 บาท

ซึ่งตนก็สอบถามเจ้าบ่าวตลอดว่าเงินสินสอดและทองพร้อมหรือยัง เจ้าบ่าวก็ยืนยันว่าพร้อมทุกอย่าง เงินครบทุกบาททุกสตางค์แล้ว แต่พอวันแต่งงานในช่วงเช้า ก็มีญาติทางเจ้าบ่าวมาพูดกับพ่อแม่ตนว่าเงินสินสอดไม่พอ ตอนนี้รวบรวมได้แค่ 15,000 บาทเท่านั้น เมื่อได้ยินดังนั้น ตนและญาติทุกคนรู้สึกชาไปหมด ได้ยินญาติคุยกันว่าเมื่อเงินสินสอดไม่พอ ก็ไม่ต้องมาแต่ง

น.ส.ธารารัตน์ กล่าวอีกว่า เมื่อถึงฤกษ์มงคลเวลา 09.09 น.ที่จะเข้าพิธีแต่งงาน ตนซึ่งแต่งตัวเจ้าสาวพร้อมแล้วจึงเข้าพิธีสู่ขวัญบายศรี เหมือนเข้าพิธีแต่งงานตามประเพณี ซึ่งเป็นการแต่งงานโดยไม่มีเจ้าบ่าว ขณะที่ตนรู้สึกเสียใจจนร้องไห้ ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับตน แทนที่จะเป็นการสู่ขวัญบายศรีงานแต่งงาน กลับเป็นการสู่ขวัญปลอบใจที่งานแต่งไร้เงาเจ้าบ่าว

อย่างไรก็ตามหลังเหตุการณ์เจ้าบ่าวเทงานแต่ง ทางเจ้าบ่าวไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย และต่อไปนี้ความสัมพันธ์ก็คงจะสิ้นสุดกัน ไม่มีวันหวนกลับมาคืนดีกันแน่นอน หลังเกิดเหตุตนก็ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.นามน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น และบอกว่าให้ไปตกลงกันก่อน ซึ่งครอบครัวของตนเรียกร้องให้เจ้าบ่าวมาชดใช้ค่าจัดงานด้วย

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ นายปิยะราช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี เจ้าบ่าว ซึ่งปัจจุบันเดินทางไปทำงานที่ กทม. โดย นายปิยะราช ระบุว่า เหตุที่ตนไม่เข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าสาวนั้น เนื่องจากก่อนเริ่มพิธีทางญาติผู้ใหญ่ฝ่ายตนแจ้งว่า ทางญาติฝ่ายเจ้าสาวเรียกค่าสินสอดเพิ่ม จากเติมที่เคยตกลงกันไว้ 149,999 บาท กับทองหนัก 2 บาท พอถึงวันแต่งงานกลับเรียกเพิ่มเป็น 200,000 บาท

ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ และหากมีไม่ครบก็ไม่ต้องแต่ง ซึ่งตนได้เตรียมสินสอดไว้ 149,999 บาทเท่านั้น จึงไม่แห่ขันหมากไปแต่ง ทั้งนี้ที่บ้านของตนก็มีการจัดเตรียมงานและเสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน หลังเกิดเหตุไม่ได้ติดต่อกัน พร้อมกลับมาทำงานที่ กทม. ตั้งใจทำมาหากิน เรื่องดังกล่าวตนก็เสียใจ ไม่มีใครอยากให้เกิด และคิดว่าคงไม่กลับไปคบกันเหมือนเดิมอีกแล้ว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน