จบด้วยดี! ปม 5 ขวบแขนหัก โรงเรียนทำขวัญ 3 หมื่นบาท แม่เด็กขอโทษให้ข้อมูลไม่ครบ ครูขอให้แก้ข่าวทำเสียหาย จ่อดำเนินการตามกฎหมาย

จากกรณีผู้ปกครองนักเรียน ชาว อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ร้องเรียนว่า น้องเตเต้ หลานชายวัย 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านโคกสูงคูขาด ต.โคกสูง อ.หนองกี่ มีอาการแขนซ้ายหักผิดรูป แต่ครูประจำชั้นไม่ยอมแจ้งผู้ปกครองหรือพาส่งโรงพยาบาล ด้านผู้ปกครองยังเรียกร้องค่าเยียวยาจากทางโรงเรียนด้วย โดยอ้างว่าเด็กมีอาการแขนผิดรูปช่วงที่ยังอยู่ในโรงเรียน

ขณะที่ครูประจำชั้นออกมาชี้แจงว่าไม่ได้ปล่อยปละละเลย ตามที่ผู้ปกครองกล่าวหา ยืนยันว่าตอนอยู่โรงเรียนเด็กไม่ได้มีอาการแขนผิดรูปตามรูปถ่ายที่ผู้ปกครองร้องเรียน พร้อมระบุว่าแขนของเด็กหักผิดรูปและถูกใส่เฝือกตั้งแต่ช่วงปิดเทอมแล้ว เนื่องจากเด็กประสบอุบัติเหตุวิ่งเล่นกับเพื่อนในศูนย์เด็กที่ผู้ปกครองทำงานอยู่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับทางโรงเรียน ทำไมผู้ปกครองถึงไม่ให้ข้อมูลให้ครบถ้วนว่า น้องแขนหักใส่เฝือกดามรักษาอยู่ก่อนแล้ว แต่พอเด็กถอดเฝือกแล้วมาเรียนวันแรก กลับกล่าวหาว่าครู และทางโรงเรียนปล่อยปละละเลยไม่ดูแล ทำให้สังคมโจมตี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 มีการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ระหว่างโรงเรียน ครูประจำชั้นที่ถูกกล่าวหา และฝั่งผู้ปกครองที่ร้องเรียน โดยมีนายสุชิต ชมภูวงศ์ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 และกรรมการสถานศึกษา ร่วมเป็นสักขีพยาน

หลังจากมีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกันเกือบ 4 ชั่วโมง ได้ข้อสรุปว่าทางโรงเรียนยอมจ่ายเงินเป็นค่าทำขวัญให้กับเด็กจำนวน 30,000 บาท แม้จะไม่รู้สาเหตุว่าเด็กแขนหักเพราะอะไรและหักตอนไหน แต่เพื่อเป็นการแสดงน้ำใจในการดูแลช่วยเหลือเด็กที่เป็นลูกศิษย์ของโรงเรียน จึงจ่ายเป็นค่าทำขวัญหรือค่ารักษาพยาบาลให้กับเด็ก

ส่วนผู้ปกครองของน้องเตเต้ก็ร้องไห้และยกมือไหว้ขอโทษทั้งครูและโรงเรียน เนื่องจากให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนกรณีที่หลานวิ่งเล่นล้มแขนหักมาก่อนหน้านี้ ทำให้ครูและโรงเรียนเสียหาย ซึ่งครูและโรงเรียนไม่ได้ติดใจเอาเรื่องอะไร แต่ขอให้ทางผู้ปกครองแก้ข่าวให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อไม่ให้สังคมเข้าใจผิดครู และโรงเรียน

นางนิตยา ธวัชชัยสกุล หรือครูหนิง ครูประจำชั้นของน้องเตเต้ กล่าวว่า หลังจากมีการพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน ถือว่าจบลงด้วยดี ทางโรวเรียนยอมจ่ายเงินค่าทำขวัญให้กับเด็ก 30,000 บาท ตามที่ผู้ปกครองเรียกร้อง เพื่อเป็นค่าทำขวัญของเด็ก แม้เหตุจะไม่ได้เกิดจากครูหรือทางโรงเรียนก็ตาม ส่วนทางผู้ปกครองก็ได้ขอโทษที่ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนว่าเด็กแขนหักเดิมอยู่แล้ว

ครูหนิง กล่าวต่อว่า ครูและโรงเรียนไม่ได้ติดใจเอาเรื่อง หากผู้ปกครองไปแก้ข่าวหรือให้ข้อมูลในโซเชียลมีเดียให้ถูกต้อง เพราะผู้ปกครองไม่ได้ให้ข้อมูลที่ครบถ้วน ทำให้สังคมเข้าใจผิดครูและโรงเรียนจนถูกประณามในทางเสียหาย หากผู้ปกครองแก้ไขทุกอย่างก็จบ แต่หากไม่แก้ให้ ทางครูซึ่งได้รับความเสื่อมเสียโดยตรง อาจจะใช้สิทธิ์ทางกฎหมาย

ด้านนายสุชิต ชมภูวงศ์ ผอ.สพป.บุรีรัมย์ เขต 3 กล่าวว่า หลังจากเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ก็ได้ข้อยุติเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางโรงเรียนพร้อมจ่ายค่าทำขวัญให้กับเด็ก ส่วนข่าวที่ออกไปเกิดความเสียหาย ทางผู้ปกครองเด็กก็ยอมขอโทษแล้วว่าให้ข่าวไปโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น ก็ถือว่าจบลงด้วยดี อย่างไรก็ตาม ทางเขตฯ ได้กำชับว่าให้ทางโรงเรียนดูแลสอดส่องเด็กให้รอบคอบมากขึ้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับเด็กทุกคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน