หนุ่มคลั่งรัก บังคับพ่อให้ช่วยตามหาสาว ชกหน้า-ประแจทุบ ขับรถแหกด่าน ตร.ยิงยางสกัด หลังคุยในเฟซบุ๊ก จู่ๆ หายตัวไป ถูกจับได้ร้องไห้โฮเหมือนเด็ก

วันที่ 19 ส.ค.65 เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองสิงห์บุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนคุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายพ่อ และทำลายข้าวของภายในบ้าน ขณะนี้ผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์นิสสัน สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บง 5548 สิงห์บุรี อยู่บนถนนสายเอเชีย มุ่งหน้าไปยัง อ.อินทร์บุรี จึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยสกัดรถยนต์คันดังกล่าวไว้ด้วย หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงตั้งจุดสกัดบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 87 ใกล้เคียงแยกสะพานต่างระดับสิงห์เหนือ

ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ รูปพรรณตามที่ได้รับแจ้ง จึงให้สัญญาณหยุดรถ แต่คนขับพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยังสกัดไปที่ยางล้อรถ จนสามารถหยุดรถยนต์คันดังกล่าวไว้ได้ พบว่ามีบุคคลอยู่ภายในรถสองคน คือ นายดำรงค์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี และ นายธวัชชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน โดย นายธวัชชัย เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งระหว่างการควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี นายธวัชชัย ได้แต่ร่ำไห้ โอบกอดผู้เป็นพ่อ เหมือนเด็กน้อยอยู่ตลอดเวลา

นายดำรงค์ ให้การว่า ตนพักอาศัยอยู่กับลูกชายเพียงสองคน โดยตนทำงานที่ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ริมถนนสายเอเชีย ส่วนลูกชายไม่ได้ทำงานอะไร ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายได้เล่นเฟซบุ๊กและได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง พูดคุยกันจนทราบว่าฝ่ายหญิงเช่าห้องพักอยู่ที่สามแยกบางงา ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี แต่ต่อมาฝ่ายหญิงได้ย้ายออกไป โดยไม่ทราบว่าย้ายไปพักอยู่ที่ไหน ทำให้ลูกชายเป็นทุกข์ใจมาก พยายามขับรถออกตามหาฝ่ายหญิงตามบ้านเช่าในละแวกใกล้เคียง แต่ก็ไม่พบ

ก่อนเกิดเหตุลูกชายมาหาตนและบังคับให้ช่วยไปตามหาผู้หญิงคนดังกล่าว ก่อนจะขับรถยนต์พุ่งชนรั้วประตูหน้าบ้าน มุ่งหน้าออกสายเอเชีย ระหว่างทางตนพยายามพูดเตือนสติให้ขับรถช้าๆ อย่าขับหวาดเสียว เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ จนลูกชายยอมให้ตนมาเป็นคนขับรถเอง แต่ตนขับรถไม่ได้ดั่งใจ เนื่องจากลูกชายตำหนิว่าขับช้าเกินไป ให้เร่งความเร็วกว่านี้ จากนั้นก็ชกเข้าที่เบ้าตาของตน และใช้ประแจฟาดเข้าที่แขนหนึ่งครั้ง จนตนได้รับบาดเจ็บ จึงต้องยอมเปลี่ยนให้ลูกชายมาเป็นคนขับอีกครั้ง ซึ่งขณะนั้นก็พบเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่ลูกชายไม่ยอมหยุด จนเกิดเหตุการณ์ตามมาดังกล่าว

หลังจากสอบสวนและดำเนินการแล้ว ทราบว่า นายธวัชชัย เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้เป็นพ่อมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำในข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการี และมาครั้งนี้ก็ก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ (ชนรั้วบ้านผู้อื่น) และทำร้ายร่างกายบุพการี

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน