กรณีพบศพ นางวี สิงห์ อายุ 38 ปี สาวสัญชาติลาว ลอยตายในสระบัว หลังวัดน้ำคอกใหม่ ม.1 ต.น้ำคอก อ.เมือง จ.ระยอง สภาพเปลือย มีเชือกพลาสติกสีขาวมัดลำตัวไปผูกกับกอบัว สอบสวน นายเพชร สิงห์ พนักงานร้านแก๊สหุงต้ม ในตัวเมืองระยอง ให้การว่า ผู้ตายเป็นภรรยา ที่หายตัวขณะมาหากุ้งในสระบัวดังกล่าว เมื่อกลางดึกวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนหายตัวนั่งคัดกุ้งอยู่ลำพัง ใกล้กับกลุ่มคนงานในแคมป์ก่อสร้างที่กำลังนั่งดื่มสุรากันอยู่ 3 คน เดินหาพบเพียงกางเกงผู้ตายตกอยู่ริมสระ จึงแจ้งทางเจ้าหน้าที่ อบต.น้ำคอก ระยอง ช่วยตามหา จนกระทั่งพบเป็นศพในสระบัว เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การสามีคนตาย จึงนำตัวสอบสวนพร้อมกับตามหาคนงานตามคำให้การว่านั่งดื่มเหล้าใกล้กับที่ผู้ตายนั่งคัดกุ้งอยู่ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.พ. พ.ต.อ.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน ผกก.สภ.เมือง ระยอง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัว 2 ผู้ต้องสงสัยชาวกัมพูชา ประกอบด้วย นายแพะ อายุ 27 ปี สัญชาติกัมพูชา และ นายเหล่ง หรือหรั่ง อายุ 24 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่นั่งดื่มสุรากันอยู่ใกล้กับที่ผู้ตายนั่งคัดกุ้งอยู่ หลังคุมตัวไปสอบสวนทั้งคืน แต่ยังให้การปฏิเสธ ก่อนจะตรวจปัสสาวะทั้งสองคน พบว่า ปัสาวะของนายเหล่งหรือหรั่ง มีสารเสพติดจึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดไปก่อนหนึ่งข้อหา ก่อนพาผู้ต้องสงสัยมาค้นห้องพักในแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของกลุ่มแรงงานกัมพูชาด้วยกันถึงการกระทำที่โหดร้าย พร้อมทั้งพาไปตรวจสอบในจุดที่เกิดเหตุและพื้นที่โดยรอบ ที่เชื่อว่าได้พาตัวสาวชาวลาวผู้เสียชีวิตไปข่มขืนและฆ่า

จากการค้นห้องพักพบเพียงข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้า จึงลงพื้นที่ตรวจสอบรอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ตั้งแต่จุดแรกที่ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ก่อนจะเกิดเหตุร้าย เดินไปตามเส้นทางรอบสระบัว พบ ในพงหญ้าใกล้กับสระบัวที่พบศพมีร่องรอยของต้นไม้และหญ้าถูกเหยียบทับจนเป็นวงกว้าง พบก้นบุหรี่ กุญแจรถจยย.ของผู้เสียชีวิตตกอยู่ และยังพบขนเพชรตกอยู่จำนวนหนึ่ง คาดเป็นของคนร้ายจึงเก็บไปเพื่อตรวจพิสูจน์ว่าตรงกับผู้ต้องหาทั้งสองคนหรือไม่ นอกจากนี้ยังพบไฟฉายประกอบเองจากท่อพีวีซีตกอยู่ในน้ำใกล้กับจุดที่ผู้ต้องสงสัยนั่งดื่มสุรากันอยู่จึงเก็บหลักฐานทั้งหมดเพื่อพิสูจน์ต่อไป

สอบสวนนายรน อายุ 30 ปี สัญชาติกัมพูชา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองนั่งดื่มสุราอยู่กับ 2 ผู้ต้องสงสัย และ พบว่า นายแพะ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยสัญชาติกัมพูชา เดินเข้าไปพูดจาแซวแทะโลม ผู้เสียชีวิต ที่นั่งคัดกุ้งอยู่คนละฝั่งคลองตามลำพัง ขณะที่สามีผู้ตายออกไปหากุ้ง แต่ฝ่ายผู้เสียชีวิตไม่ได้ตอบโต้ยังคงนั่งคัดกุ้งต่อไป หลังจากนั้นภรรยาของนายเหล่ง หรือหรั่ง มาตามให้กลับห้องพัก ตนเองจึงกลับไปพร้อมกัน จนเหลือนายแพะ อยู่ตามลำพังกับผู้เสียชีวิต จึงไม่ทราบว่าเหตุการณ์ต่อจากนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น

ด้านสองผู้ต้องหา ยังยืนกรานปฏิเสธเป็นภาษาเขมรว่าไม่ได้เป็นคนลงมือกระทำ และ ไม่ยอมให้การเพิ่ม บอกเพียงว่าตัวเองบริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนอีกรอบที่สภ.เมือง ระยอง

ด้าน พ.ต.อ.ดำรงค์ กล่าวว่า จากพยานหลักฐานทางตำรวจมั่นใจว่า ผู้ต้องสงสัยทั้งสองรายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ถึงแม้จะปฏิเสธก็ตาม จากการลงพื้นที่ยังพบหลักฐานซึ่งเป็นขนเพชรที่คาดว่าเป็นของคนร้าย จะส่งไปพิสูจน์เพื่อเปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัยทั้งสองรายว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งจะสรุปอีกครั้งหลังผลพิสูจน์ออกมา ก็จะชัดเจนยิ่งขึ้น ทางตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีว่าผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมอย่างแน่นอน

ด้าน นายเพชร สามีผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ต้องการให้ทางตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว และ มั่นใจว่า คนร้ายอยู่ในแคมป์คนงานดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาตนเองและภรรยาจะมาหากุ้งในบริเวณดังกล่าวบ่อยครั้ง และ ทุกครั้งภรรยาที่เสียชีวิต มักจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนงานในแคมป์ ที่ชอบมาพูดจาแทะโลม ในขณะที่ตนออกไปลากกุ้งในสระบัว และ ปล่อยให้ภรรยาคัดกุ้งอยู่ตามลำพังครั้งละ1-2 ชั่วโมง โดยที่ตนยังบอกว่าพวกนั้นเขาคงพูดเล่น เพราะเห็นอยู่ว่ามากับตน โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับภรรยา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน