เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 ก.พ. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร ตะวันตก จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเม้นท์ และพวกรวม 4 คน ขณะตั้งแคมป์ในเขตพื้นที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยสามารถตรวจค้นพบซากเสือดำ ซึ่งเป็นสัตว์สงวนที่เหลืออยู่ไม่ถึง 130 ตัว ในผืนป่าในประเทศไทย โดยได้ถูกจับกุมดำเนินคดีฐานล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ตะวันตก ว่า ไม่มีอะไรทุกอย่างต้องดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ไม่ต้องกังวล
วันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า เรื่องนี้ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย แม้ว่าจะเป็นยุคของ คสช. ทุกคนเมื่อทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้แจ้งความไปแล้ว ส่วนที่สังคมเป็นห่วงว่าจะเกิดกรณีให้คนอื่นมารับผิดแทนนั้น เห็นว่าอย่าเพิ่งมองไปถึงจุดนั้นขอให้ทุกอย่างเดินไปตามกฎหมายก่อน ซึ่งนายกฯ ยืนยันแล้วว่าให้ดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อถามว่าหลายคนเป็นห่วงเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนายเปรมชัย เป็นเจ้าหน้าที่ระดับเล็ก อาจถูกกลั่นแกล้งได้ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ไม่น่าจะมีการทำอะไรอย่างนั้นได้ เพราะเจ้าหน้าที่ทำตามหน้าที่ของเขา เราต้องให้กำลังใจเขาด้วยซ้ำ เพราะถ้าไม่ให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ที่ทำงานเหล่านี้อาจจะท้อถอยและหมดกำลังใจในการทำงานได้ อันนี้ต้องชื่นชมที่เขาปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง
ต่อข้อถามว่าสังคมเป็นห่วงเรื่องจะเงียบหาย เพราะบริษัท อิตาเลียนไทยฯ กำลังจะมีการก่อสร้างทางลอดให้สัตว์เดินกับทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะบริษัท อิตาเลียนไทยฯ เป็นบริษัทหนึ่งที่ไปก่อสร้างให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ถือเป็นอาชีพของเขาที่ไปประมูลงานได้ ถือเป็นบริษัทใหญ่ที่ไม่ได้ก่อสร้างเฉพาะในประเทศเท่านั้น แต่โด่งดังไปถึงต่างประเทศด้วย นายกฯ พูดแล้วว่าเป็นไปตามกฎหมาย คงไม่มีใครไปช่วยได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไป เราอย่าเพิ่งไปคาดการณ์อะไร
