วันที่ 8 ก.พ. พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธาภิรมย์ ผกก.สภ.เมืองอำนาจเจริญ พ.ต.ท.เทวราช เอื้อวงษ์ประเสริฐ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.ไมตรี บุญมาศ รอง ผกก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ และ ร.อ.ธีระศักดิ์ สืบพรหม รอง ผบ.ร้อย รส.จว.อำนาจเจริญ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารกว่า 10 ติดตามแก๊งเงินกู้ หลังมีผู้เสียหายซึ่งเป็นคนขายไอศกรีม เข้าร้องเรียนว่าถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบข่มขู่และทำร้ายร่างกาย กระทั่งพบกลุ่มแก๊งเงินกู้กำลังเก็บเงินลูกหนี้อยู่ที่บริเวณตลาดวิชิตสิน จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม
พบเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ทราบชื่อคือ นายอำพร สมแก้ว อายุ 26 ปี และนายปิยะ มากเหลือ อายุ 34 ปี ตรวจค้นพบเงินสด 8,200 บาท บัญชีลูกค้าที่อยู่ในโทรศัพท์ บัตรแนะนำลูกค้าจำนวนหนึ่ง ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาสอบสวนเพิ่มเติม
จากการสอบสวนนายปิยะ ให้การรับสารภาพว่าได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจริง เนื่องจากโมโหที่เก็บเงินไม่ได้ และได้พลั้งมือไปทำร้ายผู้เสียหายเข้า ก่อนที่ผู้เสียหายจะป้องกันตัวเองด้วยการชกกลับคืนมา จึงทำให้ตนหยุดชกผู้เสียหาย และบอกให้ผู้เสียหายให้รีบนำเงินมาจ่าย ก่อนที่จะขับรถกลับออกมา
ขณะที่ภรรยาของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนก็อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่แก๊งเงินกู้ได้มาทวงหนี้ที่บ้าน โดยขณะนั้นสามีของตนไม่มีเงินมาจ่ายดอกเบี้ย ทำให้แก๊งเงินโมโหและทำร้ายสามีพร้อมทั้งขู่ว่าจะมาอีก สามีของตนจึงเกิดความกลัวและชวนตัวเองหนี แต่แม่ของตนได้บอกให้เข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ จนสามารถจับกุมแก๊งเงินกู้นอกระบบไปได้บางส่วน แต่แก๊งเงินกู้ที่ทำร้ายสามีตนไม่ได้ถูกจับด้วยในวันนั้น เนื่องจากไหวตัวได้ทันและหลบหนีไปเสียก่อน ซึ่งหลังจากนั้นสามีของตนก็ต้องหลบหนีไปหางานทำอยู่ที่ กทม. เพื่อที่จะหาเงินมาใช้หนี้ เนื่องจากเกรงว่าหากอยู่ที่บ้านจะถูกกลุ่มแก๊งเงินกู้ดังกล่าวทำร้ายเอาอีกได้
พ.ต.ท.เทวราช เปิดเผยว่า หลังจากที่จับกุมแก๊งเงินกู้กลุ่มดังกล่าวได้แล้ว ตนจึงได้เชิญภรรยาของผู้เสียหายมาชี้ตัวว่าแก๊งเงินกู้ที่จับได้นี้ใช่กลุ่มเดียวกันกับที่ทำร้ายสามีของตนหรือไม่ ซึ่งผู้เสียหายก็ได้ยืนยันว่าเป็นแก๊งเงินกู้กลุ่มนี้จริง โดยผู้เสียหายเองก็ไม่ได้ติดใจเอาความในเรื่องทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด เพียงแค่ขอให้เวลามาทวงหนี้อย่าทำร้ายกันก็พอ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
