จากกรณีหวย 30 ล้านอลเวง ระหว่างครูปรีชา ใคร่ครวญ และ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี อดีตข้าราชเกษียณตำรวจ ฟ้องร้องเป็นเจ้าของกรรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท กระทั่งกองปราบพบหลักฐานเป็นคลิปเสียงการสนทนาที่อ้างว่าเป็นเสียงของ ครูปรีชา กับ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ้บ้าบิ่น อายุ 58 ปี แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ที่อ้างว่าขายให้กับ นายปรีชา โดยการสนทนาชายดังกล่าว ได้ระบุชัดเจนว่า ตนไม่ได้ถูกรางวัลที่ 1 ซึ่งล่าสุดทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ออกมาระบุว่า คดีนี้ทำเป็นแก๊งแบบครูจอมทรัพย์ อีกทั้ง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ออกมาระบุเช่นกันว่า รู้ว่าใครคือเจ้าของลอตเตอรี่แล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 13 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ ครูปรีชา ที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ใน จ.กาญจนบุรี เพื่อสอบถามถึงกรณีที่มีข่าว ครูปรีชาเปิดเซฟเฮาส์ มีทนายและแม่ค้าลอตเตอรี่มาร่วมปรึกษาหารือในคดีหวยนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ครูปรีชา กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เมื่อวานไปขึ้นศาลเสร็จก็กลับบ้าน ไม่มีการประชุมอะไรกันเลยเพียงแต่ทนายก็แนะนำในเรื่องของรูปคดี ในเรื่องของการฟ้องคดีแพ่งว่าต้องทำอะไรบ้างในเรื่องของกฎหมาย อย่างอื่นก็ไม่มี ไม่มีการนัดประชุม ฝากสื่อว่าเวลาจะลงอะไรให้ถามครูก่อนจะได้ข้อมูลข้อเท็จจริงเอาไปลง คนที่ดูสื่อจะได้ไม่เข้าใจผิด จะได้เป็นสื่อกลางที่ถูกต้อง ครูก็ต้องขอขอบคุณสื่อทุกช่องที่ลงข่าวในสิ่งที่ถูกต้อง และขอขอบสื่อทุกช่องที่เผยแพร่ในสิ่งที่ถูกต้อง
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบเจ๊เกียว แม่ค้าลอตเตอรี่ที่อ้างว่าเห็น เจ้บ้าบิ่น ขายลอตเตอรี่ให้กับครูปรีชา วันนี้ได้ตั้งแผงขายลอตเตอรี่กับแม่ค้าลอตเตอรี่อีก 2 แผง ภายในวัดไชยชุมพลชนะสงคราม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จากนั้นผู้สื่อข่าสจึงสอบถามเจ๊เกียวว่าเห็นเจ๊บ้าบิ่นไหม เพราะหายหน้าหายตาไป ซึ่งเจ๊เกียวก็ตอบว่าเจ๊บ้าบิ่นสบายดี ไม่ได้ถูกอุ้มหรือหายไปไหนตามข่าวลือ คุยกันทุกวัน ที่หยุดขายไประยะหนึ่งเพราะเจ๊บ้าบิ่นมีภาระเยอะ แล้วมาเจอเรื่องแบบนี้ เจ๊เกียวสงสารคนที่ทำกินสุจริตแล้วมาเจอเรื่องแบบนี้ งานนี้ที่เจ๊เกียวเข้ามาเพื่อความถูกต้อง เรียกร้องความยุติธรรมขอให้สิ่งนี้ปรากฏในเร็ววัน
“อยากจะฝากว่า คนถ้าไม่ใช่ของแท้ ไม่มีใครเข้ามายุ่งหรอก เพราะความวุ่นวายจะเข้ามา และความคิดของคนและความเป็นจริงบางครั้งคนละเรื่อง ขอขอบคุณสื่อที่เป็นกลาง และขอให้สื่อลงความจริงที่ทุกคนพูด อย่าบิดเบือนหรือว่าต่อเติมเอง มิฉะนั้นสื่อเองจะถูกตำหนิ”
