จากรณีชาวบ้านพบท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 80 เซนติเมตร ความยาว 154 เมตร น้ำหนักประมาณ 14 ตัน สภาพยังสมบูรณ์มูลค่านับล้านบาท ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยชายหาดบ้านบางเบิด หมู่ 5 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ตามข่าวที่เสนอนั้น


ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 15 ก.พ. นายสมโภชน์ อุบลกาญจน์ กำนันตำบลปากคลอง นายอำพรรณรัตน์ พุ่มศรี ประธานชุมชน นายบุญยัง ศรีวิโรจน์ แพทย์ประจำตำบล นายทวี ศรีชลธาร ตัวแทนชาวบ้าน และ น.ส.ชิดสุภางค์ ชำนาญ เลขานุการสมาคมเพื่อนสิ่งแวดล้อมจังหวัดชุมพร พร้อมชาวบ้านกว่า 10 คน เดินทางไปยังชายหาดบ้านบางเบิดเพื่อติดตามตรวจสอบว่ามีหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องลงมาดำเนินการขนย้ายท่อน้ำมันดังกล่าวออกไปจากพื้นที่หรือยัง แต่พบว่าท่อส่งน้ำมันดังกล่าวยังอยู่ที่เดิม บางส่วนได้ถูกคลื่นซัดกวาดเอาทรายขึ้นมาทับจนเกือบมิด

นอกจากนั้นยังพบมีคราบก้อนน้ำมันดิบสีดำหลุดออกมาปนเปื้อนอยู่บนหาดทรายจำนวนหนึ่ง ส่วนภายในผนังท่อมีคราบน้ำมันสีดำเกาะติดอยู่มีความหนามากกว่า 5 เซนติเมตร และยังพบอีกว่าช่วงข้อต่อระหว่างท่อหลายจุดที่มีน๊อตเหล็กกล้าขนาดใหญ่อย่างดีขันยึดติดกันไว้ข้อต่อละ 22 ตัว มีคนมาถอดขโมยเอาไปหลายจุด ทำให้ท่อหลุดออกจากกัน และมีคราบน้ำมันดิบที่เกาะอยู่หลุดออกมาเรื่อยๆ เริ่มส่งผลกระทบต่อชายหาดและน้ำทะเลริมฝั่ง

นายสมโภชน์กล่าวว่า ขณะนี้ท่อส่งน้ำมันถูกคลื่นซัดมาอยู่บนชายหาดนาน 7 วันแล้ว แต่หน่วยงานเกี่ยวข้องยังนิ่งเฉยไม่มีความคืบหน้าใดๆ ปล่อยให้ปัญหาส่งผลกระทบต่อชุมชน ซึ่งปัญหานี้หากหน่วยงานเกี่ยวตรวจสอบอย่างจริงจังตรงไปตรงมานั้นคงไม่ยากว่าเป็นของบริษัทใด ซึ่งมีอยู่ไม่กี่แห่งเท่านั้น แต่ตอนนี้แต่ละหน่วยงานโยนกันไปมา ดังนั้นหากไม่มีศักยภาพ ก็ยอมรับมาเลยและมอบท่อดังกล่าวให้กับชุมชนจะได้ขนย้ายกันเองเพื่อนำไปแปรสภาพใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นในท้องถิ่นต่อไป

น.ส.ชิดสุภางค์ กล่าวว่าข้าราชการระดับสูงยังไม่เคยลงมาตรวจสอบในพื้นที่ให้เห็นกับตาตนเอง แค่รับรายงานจากท้องที่แล้วส่งต่อกันเป็นทอดๆเท่านั้น โดยเฉพาะกระทรวงพลังงาน ควรจะให้ความสนใจมากกว่านี้เพราะเป็นหน่วยงานเกี่ยวข้องโดยตรง ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและบริษัทที่ดำเนินการด้านปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทยอย่างมาก ถึงความเป็นมาตรฐานและความปลอดภัยในการดำเนินการ

ซึ่งที่ผ่านมา พอจะมีโครงการสำรวจหรือสัมปทานขุดเจาะน้ำมัน ทั้งบริษัทผู้ผลิต หน่วยงานรัฐ จะลงมาทำประชาพิจารณ์ ให้ความรู้ชาวบ้านมักจะพูดแต่เรื่องดีๆมีความปลอดภัย มาตรฐานสูง ไม่เกิดผลกระทบแต่อย่างใด

จึงขอฝากถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรมองเห็นความสำคัญของปัญหานี้ เพราะท้องทะเลอ่าวไทยเปรียบเสมือนครัวอาหารของโลก ควรสั่งการให้ตรวจสอบอย่างจริงจังเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคตต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน