เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มี.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชี่ยลมีเดียและเพจต่างๆของ จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากผู้ใช้เฟชบุคชื่อ “รักน้อยน้อย แต่รักนานนาน” เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม ผมสั้นสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น ก่อเหตุขโมยรถจักรยานที่จอดอยู่หน้าร้านขายโทรศัพท์ขับไปอย่างหน้าตาเฉย ก่อนนำมาคืนในคืนถัดมา พร้อมข้อความระบุว่า “หาอยู่หากินลำบาก โจรขโมยกะหลาย สิแก้ไข กันจังได๋ครับ เจ้าใหญ่นายโต ประชาชนเขาเดือดร้อน ประสาหยัง มอไซต์/จักรยาน ถังขยะหน้าบ้านมันกะลักมาแล้ว จักผู้ได๋ดอกลักถังขยะ ข่อยละงึด พิกัดร้านโทรศัพท์หน้าวัดหนองกุง แจ้งเบาะแสะเพิ่มเติม 043-431-443 / 043-431-444” ซึ่งทางเจ้าของรถยังระบุอีกว่าคิดถึงรถมากนอนไม่หลับอยากได้รถคืน
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังเจ้าของเฟชบุคดังกล่าว โดยเจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและนามกสุลจริง เนื่องจากกลัวเรื่องความปลอดภัย เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา หน้าร้าน KC TELECOM ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ตั้งอยู่ ริมถนนราษฎบำรุง ต.หนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยคนร้ายเข้ามายกรถจักรยานของตนเองปั่นออกไปอย่างหน้าตาเฉย
“ได้นำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง เรียบร้อยแล้ว แต่วันต่อมาเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 12 มี.ค. คนร้ายย้อนกลับมาพร้อมรถจักรยานและนำกลับมาจอดไว้ที่เดิม ก่อนเดินกลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่ทราบจุดประสงค์ที่แท้จริงว่าต้องการขโมยไป หรือแค่ต้องการยืมปั่นกลับบ้าน แต่จากการตรวจสอบก่อนหน้านี้พบว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาคนร้ายรายนี้ได้เข้ามาขโมยเอาถังขยะที่ตั้งอยู่หน้าร้านไป 1 ใบ แต่ถังขยะไม่นำกลับมาคืน และโดยส่วนตัวไม่ต้องการอะไรมาก หากกลับใจนำมาคืนก็จะกลับไปถอนแจ้งความกับทางตำรวจ”
พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่า แม้ผู้เสียหายไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แต่เมื่อเป็นความผิดอาญาฐานลักทรัพย์ ย่อมเป็นความผิดอาญาต่อแผ่นดินไม่อาจยอมความกันได้ พนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนคดีอาญาดังกล่าวตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 121 วรรคแรก แต่การที่ผู้ต้องหาได้ส่งมอบทรัพย์สินกลับคืนให้แก่ผู้เสียหาย เป็นการรู้สึกความผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้น จึงเป็นเหตุบรรเทาโทษตามกฎหมายที่ศาลมีอำนาจลดโทษที่จะลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดนั้นก็ได้ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายดังกล่าวตามกล้องวงจรปิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
