เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ร.ต.อ.อนุเปรม ชุมนานอก รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุคนจมน้ำสูญหาย ในคลองน้ำห้วยจระเข้มาก บ้านโคกหัวช้าง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นคลองที่พึ่งขุดลอกความลึกกว่า 5 เมตร พบครอบครัวนายมา แช่มรัมย์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/2 ถ.อนุวรรธน์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และประชาชนมุงดูบริเวณที่ต้องสงสัยว่านายมา ที่ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มี.ค. เกรงว่าจะจมน้ำเสียชีวิต หลังครอบครัวตระเวนหาตามบ้านญาติ บ้านเพื่อนแต่ก็ไม่พบ จนมีชาวบ้านพบเห็นจักรยานที่นายมาได้ปั่นประจำจอดทิ้งอยู่ริมคลอง จึงแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ
หน่วยกู้ภัยส่งชุดประดำน้ำช่วยกันลงงมค้นหา ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงพบร่างของนายมา ที่เสียชีวิตแล้ว สภาพศพใส่ผ้าขาวม้าผืนเดียวเนื้อตัวซีด มีรากผักบุ้งและผักกระเฉดพันตามขาและลำตัวจมอยู่ใต้น้ำ ตรวจสอบตามตัวไม่พบบาดแผลและร่องรอยการต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงนำร่างขึ้นจากน้ำท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัว ญาติ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายมาน่าจะลงไปเก็บผักบุ้งไปขายเพียงลำพัง แต่ถูกรากและต้นผักบุ้งพันขา ลำตัว ทำให้อ่อนแรงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จนจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว
ทางด้านนายสมพงษ์ พิทักษ์โตมร อายุ 54 ปี ลูกเขยผู้ตาย เล่าว่า พ่อตาไม่มีโรคประจำตัว แต่มักจะปั่นจักรยานออกนอกบ้านไปหาเก็บผักในคลองน้ำห้วยจระเข้มากบ่อยครั้งแต่ก็ไม่มีปัญหา แต่ครั้งนี้หายไปนานผิดปกติข้ามวัน จึงได้พากันออกตามหาแต่ไม่พบจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนมีผู้พบจักรยานสองล้อที่นายมาปั่น จอดอยู่ริมคลอง และพบศพจมในคลองน้ำดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามญาติและครอบครัวนายมา ผู้ตายไม่ติดใจเอาความ จึงได้มอบศพให้กับครอบครัวและญาติ มารับกลับไปบำเพ็ญกุศลดังกล่าวต่อไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงถึงการเสียชีวิตดังกล่าวอีกครั้ง
