เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร ผกก.กก.ดส. บช.น. พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล สว.กก.ดส.บช.น. พ.ต.ต.นพรัตน์ บุญถนอม สว.กก.ดส.บช.น. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมร้านขายยาแผนปัจจุบัน ลักลอบจำหน่ายยาที่มีวัตถุออกฤทธิ์ทางจิตประสาท พร้อมของกลางยาแก้ไอ แก้แพ้ จำนวน 2,920 ขวด ,ยาทรามาดอล จำนวน 58,760 เม็ด, อัลปราโซแลม จำนวน 2,000 เม็ด
พล.ต.ต.ฤชากร กล่าวว่า สืบเนื่องจาก บช.น. มีมาตรการกวดขันจับกุมยาอันตรายและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) วางแผนร่วมกันจับกุม จากการตรวจสอบร้านขายยาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา สามารถจับกุมได้ทั้งสิ้น 3 ร้าน คือ 1.ร้านขายยาเภสัชกรุงเทพ2 ท้องที่ สน.วังทองหลาง ได้ของกลาง ทรามาดอล 650 เม็ด ยาแก้ไอ 596 ขวด
2.ร้านลักขณา ท้องที่ สน.คลองตัน ได้ของกลาง ยาแก้ไอ 84 ขวด ทรามาดอล 740 เม็ด 3.ร้านกระปุกยา ท้องที่ สน.หัวหมาก 2,240 เม็ด ทรามาดอล 53,370 เม็ด และจับกุมผู้ดูแลร้านขายยาได้ 3 คน นอกจากนี้ยังจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 1 ราย จากการล่อซื้อผ่านทางอินเทอร์เน็ต ได้ของกลางอินโซแลม 2,000 เม็ด ทรามาดอล 4,000 เม็ด
พล.ต.ต.ฤชากร กล่าวอีกว่า สำหรับยาทรามาดอล อย. เพิกถอนทะเบียนตำรับยาชนิดนี้แล้วตั้งแต่ปี 2559 แต่กระปุกยาของกลางที่พบกลับมีวันผลิตเมื่อ 20 ม.ค. 61 และเปลี่ยนชื่อเป็นทิลดัล จึงจัดว่าเป็นยาปลอม หากนำมาจำหน่ายถือว่ามีความผิด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานกับทางอย.ดำเนินการตรวจสอบร้านขายยา หากพบว่าเภสัชกรปล่อยละเลยให้มีเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นก็จะให้ทางอย.ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมกับร้านที่กระทำความผิดด้วย ทั้งนี้หากประชาชนพบการกระทำผิดลักษณะดังกล่าว ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบได้
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันนอกเวลาทำการ,ร่วมกันขายยาอันตรายขณะที่มีผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่อยู่,ผู้ขาย(ขย.1) ไม่ทำบัญชียา,ผู้มีหน้าที่(เภสัชกรประจำร้าน)(ขย.1) ไม่ควบคุมการจัดทำบัญชียา,ผู้ขาย(ขย.1)จัดให้ฉลากที่ภาชนะและหีบห่อบรรจุยาตามที่กำหนดไว้ใน ม.25(3) คงมีอยู่ครบถ้วน,ขายยาปลอม ตามนิยาม ม.73(4) ยาที่แสดงว่าเป็นยาตามตำรับที่ขึ้นทะเบียนไว้ ซึ่งมิใช่ความจริง,ขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท2(อัลปลาโซแลม) โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวนท่องที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
